สิ่งที่ควรระลึกเวลารู้สึกผิดที่จะ Say No

เมื่อวานนี้ผมมีสอนเรื่อง Time Management ให้พนักงานใหม่

ผมพูดว่ามี productivity hacks สองข้อที่ทุกคนควรใส่ใจ

หนึ่งคือนอนให้เพียงพอ เพราะการนอนมักเป็นสิ่งแรกที่เรายอมแลกเมื่อมีเรื่องให้ต้องทำมากเกินไป แต่จริงๆ แล้วการนอนให้พอนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการมีวันที่ดีและการทำงานให้ได้ดี

ส่วนแฮ็คที่สองคือเราต้องหัด say no ให้เป็น

เราไม่ค่อยกล้าปฏิเสธใครเพราะเรากลัวจะดูเป็นคนไม่มีน้ำใจ แต่ถ้าเราไม่หัดปฏิเสธคนบ้างเลย สุดท้ายเราจะไม่ได้ทำเรื่องสำคัญสำหรับเรา เพราะเรามัวแต่ทำเรื่องสำคัญของคนอื่น

เวลาจะปฏิเสธนั้นไม่ใช่ทำอย่างไร้เยื่อใย เราต้องรู้จักมอบทางเลือกให้คนที่มาขอความช่วยเหลือด้วย เช่นต่อรองเรื่องเวลาว่าจะทำให้ได้เมื่อไหร่ หรือแนะนำคนอื่นที่อาจจะช่วยแทนเราได้

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือเราต้องแยกแยะให้ออกว่าการปฏิเสธคำขอกับการปฏิเสธตัวตนของคนที่ขอนั้นไม่เหมือนกัน

เวลาใครมาขอให้เราช่วยอะไร เขากำลัง “ขาย” อะไรบางอย่าง อาจจะเป็นไอเดีย อาจจะเป็นงาน อาจจะเป็นเป้าหมาย ถ้าเขาขายเราสำเร็จ เราก็ต้อง “ซื้อ” ไอเดียนั้น ซึ่งไม่ใช่การซื้อด้วยเงิน แต่เป็นการซื้อด้วยเวลา

ดังนั้น ก่อนที่เราจะจ่ายเวลาอันมีค่าออกไป ลองคิดให้ดีว่าเราอยากซื้อไอเดียนั้นจากเขาจริงรึเปล่า ถ้าไม่อยากซื้อ เราก็ยังไม่จำเป็นต้องจ่าย และการที่เราปฏิเสธข้อเสนอก็เป็นคนละเรื่องกับการปฏิเสธคนที่มาเสนอ – denying a request is not the same thing as denying the person making the request.

เมื่อเราแยกแยะได้ระหว่างสิ่งที่ขอกับตัวตนของคนที่ขอ เราก็จะมีความกล้ามากขึ้นที่จะปฏิเสธคำขอนั้นอย่างนุ่มนวลและด้วยความเคารพ และยังรักษาสัมพันธภาพอันดีเอาไว้ได้

เรียนรู้ที่จะ say no แล้วเราจะจัดการชีวิตได้ดีขึ้นครับ