
ช่วงหยุดยาวปีใหม่ หากไม่ได้ไปเที่ยวไหน ชีวิตอาจดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว “ปรายฝน” ลูกสาววัยสามขวบมาชวนผมระบายสีในสมุดภาพของเธอ เมื่อระบายได้ซักพัก ดินสอสีเหลืองก็หัวทู่ ปรายฝนวิ่งไปหยิบเครื่องเหลาดินสอมา เอาดินสอเสียบเข้าไปแล้วลงมือหมุนก้าน
ปรายฝนหันมาถามผมว่า “ทำไมมันลื่นจัง”
ปรายฝนแปลกใจ เพราะธรรมดาเวลาเหลาดินสอ มือซ้ายต้องออกแรงยึดเครื่องเหลาไว้กับพื้น ส่วนมือขวาก็ต้องออกแรงดันสุดตัว แต่มารอบนี้กลับแทบไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย
ผมมองแว้บเดียวก็รู้คำตอบ “ปรายฝนหมุนผิดทางลูก”
แทนที่จะหมุนไปข้างหน้า ปรายฝนกำลังหมุนถอยหลังอยู่ พอปรายฝนลองหมุนอีกทางนึงแทน จึงพบว่าต้องออกแรงเยอะกว่าเดิมมากจนผมต้องเขาไปช่วย แต่สุดท้ายก็ได้ดินสอสีเหลืองหัวแหลมเปี๊ยวเป็นผลลัพธ์
การปั่นจักรยานก็เช่นกัน
เมื่อเราออกแรงปั่นไปได้ซักพักแล้ว ถ้าเราหยุดถีบ หรือถีบถอยหลัง ก็จะไม่ต้องออกแรงแต่ประการใด แถมจักรยานยังวิ่งไปได้อีกซักพัก ก่อนจะช้าลงจนเราต้องออกแรงถีบกันอีกรอบ
ชีวิตก็เช่นกัน
เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงจุดหนึ่ง ได้งานดี เงินดี เพื่อนร่วมงานดี ก็เป็นการง่ายที่เราจะเข้าเกียร์ว่างและปล่อยให้โมเมนตั้มชีวิตพาเราไป หรือบางทีก็เลือกทำแต่งานง่ายๆ ที่เราถนัดแต่ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มเท่าไหร่นัก
ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ถ้าทำอย่างนั้นไปนานๆ จักรยานชีวิตของเราก็อาจจะค่อยๆ ช้าลงโดยที่เราไม่รู้ตัว
ดังนั้น ถ้าสิ่งที่เราทำอยู่มันง่ายดายไปเสียทุกอย่าง ควรตั้งคำถามด้วยว่าเรากำลังทำอะไรผิดทางอยู่รึเปล่า
ถ้าทำถูก มันควรจะต้องออกแรง มันควรต้องมีอุปสรรค มันควรมีความยากลำบากแซมเข้ามาบ้าง
เหนื่อยกว่าแน่นอน แต่เราจะได้ดินสอที่แหลมคมกว่าเดิมครับ
—–
Storytelling with Powerpoint รุ่นที่ 2 เรียนเสาร์ที่ 19 มกราคมนี้เปิดรับสมัครแล้วดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/tgimstory2fb
บทความวันละตอนจาก Anontawong’s Musings:
LINE: bit.ly/tgimline
Facebook: bit.ly/tgimfb
Twitter: bit.ly/tgimtwt