นิทานแฮมสี่รุ่น

20180613_ham

วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ

วันหนึ่ง ขณะที่เด็กสาวกำลังมองผู้เป็นแม่ตระเตรียมเนื้อแฮมไว้อบ เธอถามขึ้นว่า

“แม่คะ ทำไมต้องตัดส่วนหัวท้ายของแฮมออกด้วยคะ”

“ก็เพราะคุณยายทำแบบนี้มาตลอดยังไงล่ะลูก” แม่เอ่ยขึ้น

“แต่ทำไมต้องทำล่ะคะ”

“ไม่รู้สิ ลองไปถามคุณยายกันนะ”

ทั้งคู่จึงไปหาคุณยายเพื่อถามเรื่องนี้

“ยายคะ เวลายายเตรียมแฮมสำหรับอบ ยายตัดหัวท้ายออกตลอดเลย ทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วยคะ”

“คุณทวดก็ทำแบบนั้นมาตลอดจ้ะ” คุณยายตอบ

“แต่ทำไมล่ะคะ”

“ไม่รู้สิ ไปถามคุณทวดกัน”

ทั้งสามจึงไปที่บ้านคุณทวดเพื่อถามเรื่องนี้

“คุณทวดคะ เวลาที่เตรียมแฮมสำหรับอบ ทวดตัดหัวตัดท้ายออกตลอด ทำไมต้องทำอย่างนั้นด้วยคะ”

“ก็เพราะว่า” ยายทวดเอ่ย “แต่ก่อนกระทะมันเล็กไปน่ะ”

—–

ขอบคุณนิทานจากหนังสือ “เงินหรือชีวิต”, แปลโดย ฐนฐ จินดานนท์, สำนักพิมพ์ openbooks (Your Money or Your Life by Vicki Robin & Joe Dominguez with Monique Tilford)

ข้อนี้ออกสอบรึเปล่า

20180613_willthisbeinthetest

เป็นคำถามที่เราคุ้นเคยกันเวลาเรียนมัธยม

อาจจะดูมีประสิทธิภาพดี แต่ในอีกแง่ก็ดูมักง่ายเหมือนกัน

เพราะแทนที่จะได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจและฝึกปรือความเพียร เรากลับถูกสอนให้มองหาทางลัดเพื่อจะเอาชนะเกมนี้

แต่ผมว่าเกมชีวิตไม่มีทางลัด

ถ้าอยากสำเร็จ ก็ต้องทำงานหนัก ต้องเป็นของจริง เพราะแม้พวกฉาบฉวยบางคนจะดูเหมือนสำเร็จแต่น้อยนักที่จะสำเร็จอย่างยั่งยืน

ดังนั้น เลิกเก็งข้อสอบ เลิกมองหาทางลัด ใช้ทางตรง-ทางยาว ใช้สติปัญญาและอดทนรอเวลา

แล้วเราน่าจะสอบผ่านวิชาชีวิตได้โดยไม่ยากเย็นเกินไปนักครับ


หาซื้อหนังสือ Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 ได้ที่ Zombie Books RCAร้านหนังสือเดินทาง ถ.พระสุเมรุ, ซีเอ็ด นายอินทร์ B2S ศูนย์หนังสือจุฬา คิโนะคุนิยะ เอเชียบุ๊คส์  และร้านหนังสือทั่วไปครับ

เรากำลังชะล่าใจกับสิ่งใดอยู่บ้าง?

20180612_negligent

เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมกับแฟนไปที่กรมขนส่งทางบกเพื่อทำเรื่องขอสลับทะเบียนรถผมกับแฟน (ตอนแรกจะขายรถคันเก่าของแฟน แต่เสียดายป้ายทะเบียนเลขสวย) จำได้เลยว่าตอนที่ไปยื่นเรื่องนั้นแฟนผมท้องแก่เต็มที่

ไม่กี่วันถัดมา แฟนผมก็ให้กำเนิดลูกคนที่สอง แล้วเราก็วุ่นวายกับเรื่องลูกๆ จนไม่ได้ใส่ใจกับการกลับไปเอาทะเบียนมากนัก

ปลายเดือนที่แล้วนี่เอง ที่ผมกลับไปรับทะเบียน โดนน้องเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้ตำหนิว่าทำไมมารับช้าจัง แต่น้องเค้าก็ช่วยบริการให้เต็มที่ ไปค้นทะเบียนให้จนเจอ แต่พอผมนำเอกสารเตรียมจะไปจ่ายเงิน เจ้าหน้าที่ที่เคาท์เตอร์บอกว่าทำเรื่องให้ไม่ได้แล้ว เพราะทะเบียนรถแฟนขาดไปตั้งแต่เดือนมีนาคม ต้องเอารถไปตรวจสภาพแล้วมาต่อทะเบียนใหม่ สุดท้ายวันนั้นผมเลยกลับบ้านมือเปล่า และต้องเสียเวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งวันเต็มๆ เพื่อไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย

—–

“เม” น้องในทีมผมคนหนึ่งเลี้ยงหมาชื่อ “ทับทิม”

เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว เมต้องพาทับทิมไปขูดหินปูน

ฟังเหมือนไม่มีอะไร แต่เป็นวันที่ลุ้นมากจนเมต้องมาโพสสเตตัสเตือนใจ:

🔺บันทึกไว้เตือนใจตัวเอง🔺

วันนี้เป็นวันที่พาทับทิมไปขูดหินปูน ทับทิมเป็นยอร์คตัวจิ๋ว น้ำหนักแค่ 2 กก. การขูดหินปูนต้องมีการวางยา ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอะไรขึ้นก็ได้กับน้อง นาทีที่ยืนฟังคุณหมออธิบายเพื่อเซ็นยินยอมการวางยานั้น มันเป็นเรื่องบีบหัวใจเรามาก และพอคุณหมอมารับตัวน้องเข้าห้องไป ตอนนั้นกลัวมากว่าจะมันจะกลายเป็นการจากกันตลอดไป

ก่อนคุณหมอจะพาน้องไป คุณหมอแจ้งว่าถ้าจะไปไหนก็ให้รีบไปและกลับมานั่งรอ เผื่อว่าถ้ามีอะไรจะได้คุยกับเราได้ทันที (นั่นคงไม่เป็นเรื่องดีแน่) เราไม่ยอมไปไหน นั่งเฝ้าอยู่ตรงนั้น ทุกครั้งที่ประตูห้องคุณหมอเปิดแล้วมีคนเดินออกมา ใจเราแว้บหายตกไปอยู่ตาตุ่มทุกที เค้าจะออกมาแจ้งเรื่องอะไรเรารึป่าว มีอะไรเกิดขึ้นกับน้องเราในห้องนั้นรึป่าว เป็นหนึ่งชั่วโมงครึ่งที่ทรมานมาก

สุดท้ายทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี คุณหมอเรียกเราไปคุยและให้เราเห็นว่าน้องเริ่มฟื้นแล้ว และกำชับว่าต้องแปรงฟันให้น้องแบบจริงจังแล้วต่อจากนี้

ทั้งหมดที่พิมพ์มา ย้อนกลับมาที่ตัวเองว่า ถ้าเราคิดจะเลี้ยงเค้า เราต้องมีความรับผิดชอบและมีวินัยมากกว่านี้ แปรงฟันให้น้องใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ที่ผ่านมาทำไมไม่ตั้งใจทำ😔

อยากฝากถึงเพื่อนๆที่เลี้ยงน้องหมาว่า
👉แปรงฟันน้องเป็นประจำ
👉ถ้าเริ่มมีปัญหาให้รีบปรึกษาคุณหมอ เราเชื่อว่าคนเลี้ยงน้องหมารู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันอันตรายถึงชีวิตน้องเราได้
👉ถ้าต้องขูดหินปูน อยากให้หาข้อมูลดีๆ เลือกที่ที่เราไว้ใจได้จริงๆ ถึงมันจะลำบากในแต่ละขั้นตอนแต่เชื่อเถอะ มันคุ้มกับชีวิตของน้องเรา

——

ปัญหาที่ทำให้เรากังวล ปัญหาที่ทำให้เราต้องวิ่งวุ่น (เช่นเรื่องงานต่างๆ ที่ออฟฟิศ) สุดท้ายแล้วมันไม่ได้ก่อความเดือดร้อนเท่าไหร่นักหรอก เพราะเราให้เวลากับมันทุกวัน

ปัญหาที่จะก่อความเดือดร้อนอย่างแท้จริง คือเรื่องเล็กๆ ที่เราปล่อยปละละเลยมานานด้วยความชะล่าใจต่างหาก

แค่ไม่แปรงฟันให้น้องหมาวันนี้ วันหน้าเราอาจต้องมานั่งลุ้นหน้าห้องผ่าตัดว่าจะได้เจอกันอีกไหม

ตัวอย่างเรื่องทะเบียนรถของผมอาจจะไม่รุนแรงนัก แต่มันก็ทำให้ผมต้องกลับมาสำรวจสิ่งต่างๆ ในชีวิตว่าเรากำลังละเลยเรื่องใดอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพและความสัมพันธ์ เพราะเป็นสิ่งที่เรา “มีอยู่แล้ว” จนบางทีก็ไม่เห็นคุณค่าของมันเท่าที่ควร แถมเรื่องพวกนี้เวลามันพังมันมักจะพังอย่างช้าๆ จนเราไม่ทันได้สังเกตด้วย

เราจึงไม่ควรประมาทกับทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กหรือใหญ่เพียงใด

จริงๆ แล้ว เรื่องเล็กๆ นี่แหละที่ยิ่งต้องระวัง เพราะเรามีโอกาสจะประมาทกับมันมากที่สุดครับ

คนสามประเภทที่ทุกองค์กรต้องการเสมอ

20180611_threetypes

1. คนเก่ง
2. คนขยัน
3. คนดี

ถ้ามีครบทั้งสามอย่าง สำหรับผมถือว่าเพอร์เฟกต์

ถ้าเก่ง จิตใจดี แต่ไม่ขยัน อันนี้ก็ดีรองลองมา อาจจะเหมาะเป็นหัวหน้าถ้ามอบหมายงานเป็นและไม่ขี้เกียจจนดูเป็นการเอาเปรียบเกินไป

ถ้ายังไม่เก่ง แต่เป็นคนดีและคนขยัน อันนี้ก็ดีไปอีกแบบ และในระยะยาวอาจจะดีกว่าแบบข้างบนก็ได้

ถ้าเก่ง ขยัน แต่จิตใจไม่ดี อันนี้ก็น่าเป็นห่วง อย่างดีก็ทำให้บรรยากาศการทำงานอึมครึม อย่างแย่ก็อาจถึงขั้นทุกจริตสร้างความเสียหายให้องค์กร ควรจะโค้ชใกล้ชิด ถ้าปรับทัศนคติได้ก็ถือว่าโชคดี

การเป็นคนเก่งบางทีเราก็เลือกไม่ได้ เพราะไอคิวใครไอคิวมัน

แต่การเป็นคนขยันกับการเป็นคนดี เราเลือกได้ ใครๆ ก็ทำได้ ดังนั้นควรจะยึดสองข้อนี้ให้มั่น เพราะถ้าเจตนาดี และขยันอย่างมีสติ ยังไงๆ มันก็ต้องเก่งขึ้นครับ

ถ้าเรื่องเล็กยังทำให้ถูกไม่ได้

20180611_small

ก็อย่าหวังว่าจะทำเรื่องใหญ่ๆ ให้ถูกได้

“How you do anything is how you do everything.”
-Anonymous

ผมเคยอ่านการทดลองที่ให้อาสาสมัครไปเยี่ยมห้องพักของนักศึกษา แล้วให้อาสาสมัครทายว่านักศึกษาคนนั้นมีผลการเรียนเป็นอย่างไร ดี ปานกลาง หรือไม่ดี

ปรากฎว่าอาสาสมัครมีโอกาสทายถูกสูงมาก ทั้งๆ ที่ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าตาหรือได้ยินเสียงของนักศึกษาคนนั้น

เพียงแค่ดูวิธีการดูแลห้องพัก ก็ทายได้แล้วว่าเจ้าของห้องจะประสบความสำเร็จในการเรียนหรือไม่

—–

เวลาสัมภาษณ์คนเข้าทำงานที่ Wongnai สิ่งหนึ่งที่เราจะคำนึงถึงเสมอคือผู้สมัครคนนี้มี Red Flag หรือไม่

เช่นเปลี่ยนงานบ่อย, Resume สะกดผิดหลายจุด หรือตอนสัมภาษณ์ชอบพูดถึงคนอื่นเสียๆ หายๆ เหล่านี้ล้วนเป็น Red Flag ที่ต้องระวังทั้งนั้น

เพราะถ้าเขาเปลี่ยนงานบ่อย แสดงว่าอาจจะอยู่กับเราไม่นาน

ถ้า Resume ซึ่งเปรียบเสมือนหน้าตาของผู้สมัครยังสะกดผิดเยอะขนาดนี้ ตอนทำงานจริงจะสะเพร่าขนาดไหน

และถ้าว่าเพื่อนร่วมงานเก่าเสียๆ หายๆ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะว่าคนที่นี่เสียๆ หายๆ เช่นกัน

—–

ฝรั่งมีทฤษฎีที่เรียกว่า Broken Window Theory

ถ้าย่านไหนมีตึกรามบ้านช่องที่กระจกแตก ก็มีความเป็นไปได้ที่อัตราการก่ออาชญากรรมจะสูงไปด้วย

เพราะกระจกที่แตกนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความไร้ระเบียบ และเป็นตัวบ่งบอกคนที่อยู่ในย่านนั้นว่า ใครจะทำอะไรก็ได้ ถ้าการทำกระจกแตกเป็นเรื่องธรรมดา การทำเรื่องที่เสียหายมากกว่านี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน

หรืออย่างเราไปเดินห้องน้ำในห้าง ถ้าห้องน้ำสะอาด ก็จะสะอาดหมดทุกห้อง ถ้าห้องน้ำสกปรก มันก็จะสกปรกหมดทุกห้อง

ภาพเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นในทางดีหรือทางร้าย จะมีผลต่อภาพใหญ่เสมอ

คนที่ละเลยในเรื่องเล็กๆ ก็มีแนวโน้มจะละเลยในเรื่องใหญ่ๆ

คนที่เฉื่อยเนือยในเรื่องเล็กๆ ก็ย่อมจะเฉื่อยเนือยในเรื่องใหญ่ๆ

คนที่ทำผิดในเรื่องเล็กๆ ก็พร้อมจะทำผิดในเรื่องใหญ่ๆ

ดังนั้น เราควรระมัดระวังการกระทำของเรา ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่

เพราะ how you do anything is how you do everything ครับ

—–

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่สนใจ Writing Workshop รุ่นที่ 2 นะครับ ตอนนี้คนสมัครเต็มเรียบร้อยแล้วครับ คงจะมีเปิดรุ่นที่ 3 ช่วงปลายปีครับ https://goo.gl/CsZkpi