
แสดงว่ายังเจ็บไม่พอ
เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคนบางคนหรือแม้กระทั่งตัวเราเองถึงไม่เลิกนิสัยแย่ๆ
สูบบุหรี่ เมาแล้วขับ ไปทำงานสาย ฯลฯ
หนึ่ง เพราะอุปนิสัยเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยน เพราะมันเป็นปฏิกิริยาเคมีในสมอง neural pathways ถูกใช้งานซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนสมองเรามุ่งแต่จะไปทางนี้ ลองนึกภาพว่าวันหนึ่งเราเดินเข้าป่า เราก็จะเลือกเดินทางที่มีคนเดินผ่านมาก่อนแล้ว เพราะหญ้าไม่ขึ้น ดูปลอดภัยดี
สอง เพราะอุปนิสัยเหล่านี้มันไม่ได้ให้ผลร้ายทันทีทันใด และมนุษย์เราไม่เก่งเรื่องการจินตนาการถึงอนาคต แต่เชี่ยวชาญนักในเรื่องการตอบสนองกิเลสที่เกิดขึ้นที่นี่-เดี๋ยวนี้
ดังนั้น ถ้าไม่อยากเดินทางเดิมอีก เราอาจต้องหาบทลงโทษที่ให้ผลทันทีทันใด
ใครที่เคยโดนไฟดูดไปหนึ่งครั้ง ก็คงไม่กล้าเอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟอีกแล้ว
ใครที่เคยเอามือไปจับกาต้มน้ำเดือดซักครั้งนึง ก็คงไม่กล้าจับอีกแล้ว
ถ้าเราเดินเข้าป่าไปตามทางที่เดินบ่อยๆ แล้วเจองูอยู่กันเป็นฝูง เราก็คงหาทางเดินใหม่หรือเลิกเข้าป่านี้ไปเลย
น้องที่ผมรู้จักคนหนึ่ง เคยเมาแล้วขับ ปรากฎว่ารถคว่ำ ตัวรถพังเละเทะ แต่น้องรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ น้องเขาก็เลยเลิกเมาแล้วขับไปโดยปริยาย
เหตุการณ์รถคว่ำ ก็คืองูฝูงใหญ่ในป่าที่ทำให้น้องไม่กล้าเลือกเดินทางนี้อีก
คนที่มาทำงานสาย ถ้าโดนปรับเงิน 500 บาทซักครั้ง เขาคงไม่กล้ามาสายอีก
คนที่สูบบุหรี่ ถ้าได้รู้ว่าเขาทำให้คนใกล้ตัวเป็นมะเร็งปอด เขาอาจเลิกสูบบุหรี่ทันทีได้เลย
คนเราเปลี่ยนกันได้เสมอ
ที่ยังไม่เปลี่ยน เพราะว่ายังเจ็บไม่พอเท่านั้นเอง