
ประเด็นที่ 1 เขาไม่ได้โกรธเรา
ผมเคยทำงานอยู่แผนกซัพพอร์ต (support) ที่ต้องคอยแก้ปัญหาให้ลูกค้า
เนื่องจากลูกค้าต้องจ่ายเงินค่าซอฟท์แวร์ให้เราเดือนละหลายแสน (เพื่อเอาไปทำรายได้เดือนละหลายล้าน) เวลาที่ซอฟท์แวร์มีปัญหาเขาจึงเสียอารมณ์ขั้นหนักหน่วง
สิ่งหนึ่งผมคอยบอกตัวเองเวลาเจอลูกค้าที่หงุดหงิดใส่ก็คือ
“เขาไม่ได้โกรธเรา เขากำลังโกรธปัญหา” (He’s not angry at you, he’s angry at the problem) แต่บังเอิญเราได้รับมอบหมายให้มาช่วยแก้ปัญหาให้เขาพอดี
ฝรั่งจึงมีคำว่า don’t take it personal คืออย่าเอา “ตัวกู” เข้าไปรองรับพลังงานลบที่ถูกปล่อยออกมาราวสะเก็ดระเบิดตะปู
ถ้าใครคนหนึ่งโกรธ แสดงว่าเขากำลังเป็นทุกข์อยู่มหาศาล เราจึงควรเห็นใจเขา และช่วยบรรเทาทุกข์ให้เขาโดยเร็วที่สุด
เพราะฉะนั้น เวลาเราเจอใครโกรธใส่ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน พ่อ แม่ แฟน หรือลูก ก็อย่าไป take it personal นะครับ
รู้ว่ายาก แต่ถ้าทำได้มันก็ดีกับทุกฝ่ายใช่มั้ย?
ประเด็นที่ 2 เราไม่ได้โกรธ เราแค่มีความโกรธ
บางทีภาษาของคนก็คลาดเคลื่อน
เวลาฝรั่งโกรธ เขาจึงพูดว่า I am angry
is am are = เป็น อยู่ คือ
เวลาพูดว่า I am angry ก็เหมือนกับจะบอกว่า ฉันคือโกรธ โกรธคือฉัน ฉันและโกรธคือเนื้อเดียวกัน
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วภาษาที่ถูกต้องควรจะเป็น
I have anger – ฉันกำลังมีความโกรธ
I have anger จะแยกระหว่าง “ตัวเรา” กับ “ความโกรธ” ไว้ชัดเจน
ตัวเราก็ส่วนตัวเรา ความโกรธก็ส่วนความโกรธ มันเป็นแค่เพียงผู้มาเยือนแล้วเดี๋ยวเดียวมันก็ไป
ครั้งต่อไปที่เรารู้สึกโกรธขึ้นมา ก็ให้บอกตัวเองว่า I have anger ๆ ๆ ซ้ำๆ ดูนะครับ (อาจจะคล้ายๆ กับการบริกรรมว่าโกรธหนอ โกรธหนอนั่นแหละ)
แล้วถึงจุดนึงก็จะพบว่า Oops! I don’t have anger anymore 😉
—-
ขอบคุณภาพจาก Flickr: Garrett Heath
ขอบคุณคุณผู้อ่านที่อุดหนุนหนังสือเล่มแรกของผม “Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ” จนตอนนี้ติด Bestseller หมวดจิตวิทยาของซีเอ็ดครับ (https://goo.gl/e326HZ) หากใครยังไม่ได้จับจอง ยังสามารถหาซื้อได้ที่ซีเอ็ด นายอินทร์ คิโนะคุนิยะ เอเชียบุุ๊คส์ บีทูเอส และศูนย์หนังสือจุฬาครับ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ bit.ly/tgimannounce