“บอลชนะ อะไรมันก็ดีหมดอ่ะครับ”
– ชนาธิป สรงกระสินธิ์ (เมสซี่เจ) รายการเรื่องเล่าเช้านี้
—–
ตอนกินข้าวเช้าที่เต๊นท์ชมพูข้างๆ ตึกอื้อจื่อเหลียง ก็ได้ดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้ที่ไปเก็บบรรยากาศต้อนรับนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
น้องที่ถูกสัมภาษณ์เยอะๆ มีสองคน คือเมสซี่เจ กับอาทิตย์ ดาวสว่าง
เมสซี่เจนั้นต้องถูกสัมภาษณ์อยู่แล้วเพราะเป็นนักเตะที่ดังที่สุดในทีม
แต่อาทิตย์ที่เป็นกองหลังกลับได้รับความสนใจด้วย ไม่ใช่เพราะฟอร์มการเล่น แต่เป็นเพราะน้องเขาสามารถควบคุมอารมณ์หลังจากโดนเบอร์ 7 ของอินโด “จัดหนัก” ไปหลายครั้ง
ทำให้คิดได้ว่า ในสถานการณ์ที่ชวนโมโห ถ้าเราสามารถรักษาใจเราให้ดีได้ ย่อมเป็นคุณอย่างมหาศาล และคนที่เห็นย่อมชื่นชมและนิยมเราอยู่ในใจ
ตอนสัมภาษณ์เมสซี่เจ หรือชนาธิป สรงกระสินธิ์นั้น ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าผู้สื่อข่าวถามว่าอะไร แต่ประโยคที่ติดหูผมมาก็คือ
“บอลชนะ อะไรมันก็ดีหมดอ่ะครับ”
น้องเค้าคงไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้มันฟังดูเป็นปรัชญาอะไร แต่มันกระทบใจผมอย่างจัง (แถมผมฟังผิดเป็น “พอชนะ อะไรๆ มันก็ดีหมด” ด้วย)
วันที่เราชนะ ใครๆ ก็มารับที่สนามบิน เงินอัดฉีดก็ไหลมาเทมา ได้ออกทีวี ได้ขึ้นปกนิตยสาร ได้ออกเทป
แต่คนแพ้มีมากกว่าคนชนะ
หนึ่งคนได้เหรียญทอง ย่อมหมายความว่ามีอีกสิบคนที่ไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาก็อาจจะทุ่มเทและตั้งใจไม่แพ้คนที่ได้เหรียญ
แต่ใครล่ะจะไปสัมภาษณ์นักกีฬาไทยที่ได้เหรียญเงินซีเกมส์? แค่ชื่อเขาเราอาจจะไม่มีวันได้ยินด้วยซ้ำ
ผมว่าชีวิตคนก็เหมือนเกมกีฬา มีแพ้ มีชนะ มีเสมอ
พอชนะก็ย่อมมีคนมาชื่นชม มารายล้อม
พอเสมอ คนก็เฉยๆ
แต่พอแพ้ ใครจะมาเหลียวมอง เผลอๆ ตีตัวออกห่างด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่นี่คือช่วงเวลาที่เราต้องการกำลังใจมากที่สุด
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ การชื่นชมและให้รางวัลคนชนะเป็นเรื่องดีครับ แต่ต้องใส่ใจคนที่ “เกือบชนะ” ด้วย
เพราะเขาก็ควรได้รับความชื่นชมและกำลังใจจากเราเช่นกัน
คนแพ้ไม่ควรถูกลืมครับ
—–
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ Archives
พบกับบทความใหม่ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings ครับ
