เรามีความสุขอยู่แล้ว

20150318_HappinessTime

“เรามีความสุขอยู่แล้ว แต่เราต้องมีเวลาให้มันด้วย”
– นิ้วกลม

ผมเพิ่งกลับมาจากอยุธยาครับ

เราไปเยี่ยมโรงเรียนวัดราษฎร์นิยม ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร

โรงเรียนนี้มีเด็กตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงป.6 โดยทั้งโรงเรียนมีแค่ 50 คน

ครูที่โรงเรียนนี้มีกัน 3 คน วนเวียนกันสอนจนครบทุกวิชาที่เด็กประถมต้องเรียน

เมื่อประมาณกลางปี 2013 บริษัทเราริเริ่มโครงการ English Learning Hub ซึ่งเป็นไอเดียจากเพื่อนพนักงานของเราที่จะสร้างโอกาสให้เด็กโรงเรียนนี้ได้เรียนภาษาอังกฤษแบบดีๆ บ้าง

พนักงานของเราจึงไปติดตั้งระบบ Video Conference ให้กับโรงเรียน และพนักงานของเราอาสาเป็นคุณครูช่วยสอนภาษาอังกฤษน้องๆ ผ่านระบบนี้จากห้องประชุมที่ออฟฟิศ

เราสอนเด็กๆ ครั้งละ 1 ชั่วโมง 4 ครั้งต่อสัปดาห์

และพอหมดเทอม เราก็จะไปหาน้องๆ ที่โรงเรียน เพื่อพบหน้า พูดคุยกับอาจารย์ และแจกรางวัลเด็กๆ กัน

การได้ออกไปนอกเมืองเพื่อทำกิจกรรมครั้งนี้ ถือว่าเป็นการบำบัดตัวเองอย่างหนึ่ง

เพราะผมมีโอกาสใช้ชีวิตให้ช้าลง

เราไปถึงโรงเรียนประมาณ 10 โมงครึ่ง อาจารย์ใหญ่ชื่อครูปรีชาก็เดินมาต้อนรับถึงรถตู้

เราเดินขึ้นอาคารเรียนที่ทำจากไม้ทั้งหลัง ครูปรีชาบอกว่าให้นั่งพักทานน้ำให้หายเหนื่อยก่อน ไม่ต้องรีบ

สิ่งแรกที่ผมสังเกตเห็น คือลมดีมาก ไม่ต้องใช้พัดลม ไม่ต้องมีแอร์ ก็นั่งได้ชิวๆ

มองทะลุหน้าต่างออกไปด้านหลังโรงเรียน เป็นทุ่งนากว้างขวาง ไม่มีตึกอะไรเบียดบังเลย

แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้ากรุงเทพมีทุ่งหญ้าเยอะๆ อย่างงี้ จะลมเย็นดีอย่างนี้บ้างรึเปล่า

พวกเราพาเด็กๆ ชั้น ป.4-ป.6 ไปสอนเกม Crossword (หรือ Scrabble) ที่เราซื้อมาฝาก

ผมอยู่กลุ่มเด็กป.4 มีกัน 7 คนชื่อน้องกอล์ฟ น้องเวฟ น้องแซง น้องปอ น้องนุ๊ก น้องฟิล์ม และน้องเบียร์

นั่งเล่น scrabble จนถึงเที่ยง เด็กๆ รู้คำศัพท์ใหม่ไม่น้อยกว่า 10 คำ

จากนั้นเราก็มานั่งกินข้าวเที่ยง โดยพี่ๆ แม่ครัวเตรียมอาหารไว้ให้เราอย่างดี

ผมเลือกกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่เขาใส่มาให้ในถาดหลุม

จริงๆ เขาเตรียมชามไว้ให้พวกเราแล้ว แต่ผมคิดถึงสมัยประถมที่เคยกินจากถาดหลุมแบบนี้ เลยขอจัดซะหน่อย

เรากินกันไปเรื่อยๆ ซักพัก ก็มีเกาเหลามาให้ มีแกงมาเพิ่ม ต่อท้ายด้วยฝรั่งจิ้มพริกเกลือ

กินเสร็จอิ่มได้ที่จึงเรียกเด็กๆ ทั้งหมดมารวมตัวกัน

เราให้เด็กๆ เล่นเกม เช่นเปิดเพลงฝรั่งให้น้องๆ ร้องตาม (โดยมีเนื้อร้องให้อ่าน) แล้วถามว่าแต่ละคำแปลว่าอะไร (เป็นเพลงสำหรับเด็ก จึงมีแต่ศัพท์ง่ายๆ อยู่แล้ว)

เด็กทั้ง 6 ชั้นเรียน มานั่งอยู่กับเราตลอดบ่าย จนผมอดคิดไม่ได้ว่า เค้าไม่ต้องไปเรียนหนังสือกันเหรอ

แต่เด็กๆ ไม่มีทีท่าเบื่อหรือหงุดหงิดเลย พี่ใช้ให้ทำอะไรน้องทำหมด!

20150318_HappinessTimeSchool

บ่ายสามโมงครึ่ง ผมเริ่มเห็นผู้ปกครองมาจอดจักรยานยนต์ รอรับเด็ก

ผมไม่เห็นผู้ปกครองคนไหนเล่นมือถือ

ส่วนใหญ่จะมองมาที่กลุ่มเรา หรือไม่ก็คุยกันเอง

เราตบท้ายด้วยการแจกโดนัทจาก Mister Donut เด็กรุ่นเล็กๆ กินกันอย่างเอร็ดอร่อยจนเสื้อเลอะช็อคโกแล็ตเต็มไปหมด

จากนั้นเราก็ทยอยแจกของรางวัลให้เด็กๆ ที่ตั้งใจเรียนวิชาภาษาอังกฤษของเรามาตลอดทั้งเทอม (เราจะมีดาวแจกให้นักเรียนที่ขยันตอบคำถามในห้อง และคนที่ได้ดาวเยอะๆ ก็จะได้รางวัลใหญ่หน่อย แต่เด็กทุกคนจะได้อะไรติดมือกลับบ้านแน่นอน)

จบพิธีการ ถ่ายรูปกับเด็กเสร็จแล้ว พวกเรานั่งรอให้เด็กๆ กลับบ้านจนหมด อาคารเรียนเงียบเชียบลงทันตา

พนักงาน 12 ชีวิต นั่งคุยกับคุณครูอยู่สักพัก ก่อนจะเก็บของขึ้นรถตู้

เรากล่าวลาครูปรีชา ที่เดินมาส่งเราถึงรถตู้เหมือนตอนขามา

เราแวะซื้อขนมสายไหมจากในตัวเมือง และไปแวะกินอาหารริมแม่น้ำกันแบบสบายๆ

นานแค่ไหนแล้ว ที่ผมไม่ได้ใช้ชีวิตนอกบ้านแบบ “ทอดหุ่ย” อย่างนี้

กินน้ำเย็นๆ สอน Crossword น้อง นั่งดูเด็กเต้นเพลงเดิมๆ

กิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นได้อย่างใด

แต่เพิ่มพลังใจให้ไม่น้อย

การใช้ชีวิตแบบช้าๆ ไม่เร่งรีบ
การได้ใช้ทักษะที่เรามีเพื่อช่วยให้อีกชีวิตหนึ่งดีขึ้น
การนั่งมองออกไปที่รวงข้าวแล้วปล่อยให้ลมตีหน้า

มันคือความสุขที่ใครๆ ก็สามารถมีได้

ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีเวลาให้กับมันบ้างรึเปล่าเท่านั้นเอง

Leave a comment