วาทศิลป์

20151026_Conversation

“The real art of conversation is not only to say the right thing in the right place, but to leave unsaid the wrong thing at the tempting moment”

“ศิลปะแห่งการสนทนาไม่ใช่เรื่องของการพูดให้เข้าหูอย่างถูกที่ถูกเวลาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการไม่พูดสิ่งที่ไม่เหมาะสมในจังหวะที่คันปากอีกด้วย”

-Dorothy Nevill

—–

คนจำนวนไม่น้อยสร้างเนื้อสร้างตัวจากการมีวาทศิลป์ที่ดี

ไม่ว่าจะเป็นโน๊ต อุดม น้าเน็ค โอปอลล์ รวมถึงนักการเมืองอีกหลายๆ คน

แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆ ที่ไม่ต้องใช้วาทศิลป์ในการทำมาหากิน การฝึกพูดให้เก่งๆ อาจไม่สำคัญเท่ากับการฝึกที่จะ “เงียบในจังหวะที่ควรเงียบ”

เพราะส่วนใหญ่เรามักจะมาเสียตรงที่พูดจาที่ไม่ถูกกาละเทศะนี่แหละ

ผมนี่ตัวดีเลย

แต่ไหนแต่ไรมาผมเป็นสิงห์คะนองปาก แซวคนนั้นทีคนนี้ที หรือพูดจาประชดประชันโดยไม่ได้คิดอะไร แต่คนที่ได้ยินกลับเก็บเอาไปคิดน้อยใจกันเป็นสัปดาห์

ที่ผมทะเลาะกับแฟนก็มักจะเกิดจากการที่ผมพูดผิดที่ผิดเวลา ซึ่งนำไปสู่การผิดหูและผิดใจในที่สุด กว่าจะกลับมาดีกันได้ก็ต้องเสียพลังและเวลาไปไม่ใช่น้อย

“The real art of conversation is not only to say the right thing in the right place, but to leave unsaid the wrong thing at the tempting moment”

การพูดจาฉะฉานน่าฟังน่าติดตามนี่ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก

ง่ายเพราะมันไม่มีอะไรซับซ้อน ยากเพราะว่ามันต้องอาศัยการฝึกฝน

แต่การ “ไม่พูด” ในสิ่งที่ไม่เหมาะสมในจังหวะอยากจะโต้ตอบเสียเหลือเกินนี่สิ จะซ้อมกันยังไง?

เพราะนี่มันไม่ใช่เรื่องของ “ทักษะ” แล้ว แต่เป็นเรื่องของ “สติ” ซะมากกว่า

ตราบใดที่เรายังพูดโดยไม่ยั้งคิด เราก็ยังมีสิทธิ์ “ก่อกรรมทางวาจา” อยู่เรื่อยๆ

และการก่อกรรมทางวาจานี่แหละที่ทำให้เสียผู้เสียคน

ไม่อาจเป็นสาลิกาลิ้นทองได้ อาจไม่เสียหายเท่าไหร่

แต่เป็นปลาหมอตายเพราะปากนี่สิ มันน่าเจ็บใจยิ่งนัก!

—–

ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com

อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/

อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ถ้ากด Get Notifications ใต้ปุ่ม Like หรือเลือก See First ใต้ปุ่ม Following ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)

ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่

พูดให้น้อยทำให้เยอะ

20150824_SayDo
God will judge us not by what we say today, but what we do tomorrow; not by the promises we make but by the promises we keep

พระเจ้าไม่ได้ตัดสินจากคำพูดของเราวันนี้ แต่ตัดสินจากการกระทำของเราในวันพรุ่ง
พระเจ้าไม่ได้ตัดสินจากคำสัญญาที่เราให้ไป แต่ตัดสินจากคำสัญญาที่เรารักษา
– Paulo Coelho

—–

ในห้องนอนของผมนั้นจะมีชั้นหนังสือไม้อยู่สองชั้น หนึ่งในชั้นนั้นด้านบนสุดผมจะเก็บนิยายหรือหนังสือที่ผมถือว่าเป็นหนังสือ “คลาสสิค” ที่ผมรู้ว่าซักวันนึงต้องกลับมาอ่านใหม่

หนังสือที่ผมจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้น่าจะมีอยู่ไม่เกิน 5 เล่ม

และหนังสือ The Alchemist ของ Paulo Coelho นักเขียนชาวบราซิลก็เป็นหนึ่งในนั้น

เพิ่งเปิดดู Wikipedia ถึงรู้ว่า Paulo Coelho เป็นนักเขียนที่มีผู้ติดตามออนไลน์เยอะที่สุด แฟนเพจของเขามีคนกดไลค์ 25 ล้านคน! บร๊ะเจ้า

—–

God will judge us not by what we say today, but what we do tomorrow; not by the promises we make but by the promises we keep

ประโยคนี้ถือเป็นประโยคเตือนใจที่ดีประโยคหนึ่ง

เตือนใจว่า คนเราควรพูดให้น้อยๆ ทำให้เยอะๆ

เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเจอคนประเภท พูดเยอะทำน้อย หรือ  “พูดสิบทำแค่ห้า” มาบ้างแล้ว

คนประเภทนี้นอกจากเชื่อใจไม่ได้แล้วยังน่ารำคาญอีกด้วย

ทำไมคนเราถึงพูดเกินกว่าตัวเองจะทำได้จริง?

1. ต้องการอวดเก่ง
2. ต้องการปิดบังปมอะไรบางอย่าง
3. ขาดความเคารพต่อผู้อื่น เพราะพูดแล้วไม่ทำตามที่พูด ทำให้คนอื่นรวนไปด้วย
4. ขาดความเคารพต่อตัวเอง เลยไม่คิดจะรักษาสัจจะแม้กับตัวเอง

แทนที่จะพูดสิบทำห้า จะดีกว่ามั้ยที่จะเริ่มต้นด้วยการ “พูดหนึ่งทำหนึ่ง” ?

ตั้งเป้าใกล้ๆ แต่ทำได้ชัวร์ๆ

เมื่อเราทำได้ เราก็จะมีความมั่นใจมากขึ้น มากพอที่จะพูดสอง แล้วทำให้ได้สอง

พูดน้อยๆ….ทำเยอะๆ….ไปช้าๆ

วันหนึ่งเราก็จะสามารถพูดสิบทำสิบ

หรือแม้กระทั่งพูดสิบทำร้อยเลยก็ยังได้

พูดเมื่อดีกว่าเงียบ

20150405_SpeakOrSilence

Do not speak unless it improves on silence
– Unknown

อย่าพูด ยกเว้นเสียแต่มันจะดีกว่าความเงียบ
– นิรนาม

—–

สมองของคนเรานั้นคิดตลอดเวลา

บางสำนักบอกว่าเรามีความคิดวันละ 20,000 ความคิด

บางสำนักก็บอกว่าวันละ 50,000

และส่วนหนึ่งของความคิด ก็หลุดออกมาเป็นคำพูด

—–

เคยรู้สึกมั้ยว่าถ้าเราต้องนั่งเงียบๆ กับคนที่ไม่คุ้นเคย ความเงียบนั้นจะกลายเป็น dead air ที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดและผลักให้เราหยิบเรื่องอะไรก็ได้ขึ้นมาคุยกับเขา

ที่เราพูดออกไปเพราะว่าอะไร?

เพราะอยากรู้จักเขามากขึ้น? เพราะกลัวเสียมารยาท? หรือเพราะว่าความเงียบมันอึดอัดเกินไป?

ถ้าอยากรู้จักกันมากขึ้นจริงๆ ผมก็สนับสนุนให้คุยกันนะ เพราะการพูดคุยทำให้เราสนิทกันมากขึ้น

แต่ในบางสถานการณ์ ถ้าเราไม่รู้จะคุยอะไรจริงๆ การบังคับตัวเองให้พูดออกมา อาจจะได้เพียงประโยคอันว่างเปล่า และทำให้ dead air หนักกว่าเดิมหลังจากพูดจบแล้ว

ในสถานการณ์อย่างนี้ ความเงียบอาจจะช่วยให้เราสื่อสารกันได้ดีกว่าคำพูดใดๆ นะครับ