
ผมได้อ่านข้อความหนึ่งของ The Old Grey Thinker ซึ่งเป็นบล็อกเกี่ยวกับชีวิตวัยเกษียณ
เป็นข้อความที่งดงาม จึงขอนำมาถอดความไว้ตรงนี้ และขอแสดงความเห็นของตัวเองในตอนท้ายนะครับ
มีความเสียใจรูปแบบหนึ่งที่แปลกประหลาดและไม่เคยมีใครเตือนเราเกี่ยวกับการเกษียณ
ไม่ใช่ความเจ็บปวดจากการสูญเสียกิจวัตรเดิมๆ ไม่ใช่ความเงียบงันที่มาแทนที่ความวุ่นวายตลอดหลายทศวรรษ และไม่ใช่แม้กระทั่งพื้นที่ว่างเปล่าที่คุณค่าและความหมายเคยดำรงอยู่
มันเป็นอะไรที่นุ่มเบากว่านั้น แปลกประหลาดกว่านั้น และเป็นส่วนตัวยิ่งกว่านั้น – มันคือความอาลัยอาวรณ์ถึงคนบางคนที่เราไม่เคยได้เป็น (the mourning of all the people you never got to become.)
เมื่อเราได้เข้าสู่วันเวลาที่จังหวะชีวิตเดินช้าลง ใจของเราก็เริ่มตระเวนดูห้องที่เราไม่เคยได้เปิดประตูเข้าไป
พักหลังๆ ผมมาเตร็ดเตร่อยู่ในห้องพวกนี้บ่อยขึ้น
ในห้องหนึ่ง มีนักเขียนนิยายที่ผมเคยมั่นใจว่าวันหนึ่งผมจะได้เป็น – คนที่ใช้เวลายามค่ำคืนในการเจียระไนถ้อยคำแทนที่จะมามัวนั่งตอบอีเมล
ส่วนอีกห้องหนึ่ง ก็มีช่างไม้มือระวิงที่กำลังสรรค์สร้างอะไรบางอย่างที่จะอยู่ได้ยืนยาวกว่าชีวิตของเขา
ตรงหัวมุมห้องที่กำลังขำขื่นๆ คือ “คนต่างถิ่น” (expat) ที่ผมเคยจินตนาการว่าจะได้เป็น นั่งจิบกาแฟใต้โคมไฟถนนในต่างเมือง คุ้นเคยและคล่องแคล่วกับชีวิตที่ผมไม่เคยได้สัมผัส
นี่ไม่ใช่ความเสียดาย (This isn’t regret.)
ความเสียดายมักจะเจือปนไปด้วยความขมขื่น การตัดสิน และความรู้สึกล้มเหลว
แต่ความรู้สึกนี้มันอ่อนโยนกว่า มันคือการยอมรับว่ามีตัวตนอีกเอนกอนันต์ที่เดินอยู่ข้างเรามาโดยตลอดอย่างเงียบงัน เหมือนเพื่อนร่วมทางที่ไม่เคยมีโอกาสได้เอื้อนเอ่ยวาจาใดๆ
มันไม่ใช่การตัดสินใจผิดหรือการพลาดโอกาส
มันเป็นเพียงชีวิตที่ไม่ได้รับชัยชนะในการทอยเหรียญ
จะว่าไปก็ตลกดี – ตอนที่เรายังหนุ่มยังสาว เราเคยเชื่อว่าทุกการตัดสินใจเป็นไปเพื่อการสร้างอะไรบางอย่าง
หน้าที่การงาน ครอบครัว ชื่อเสียง อนาคต…โดยเราลืมไปว่าทุกทางที่เราเลือกก็กำลังลบอะไรบางอย่างออกไปอย่างเงียบๆ
ทุกการตอบตกลงคือหนึ่งบรรทัดในนิยายชีวิตของเรา แต่มันก็ปิดประตูสำหรับพล็อตเรื่องอื่นๆ เช่นกัน
ตอนนั้นเราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเรากำลังสูญเสียอะไรไป เพราะมัวแต่ชุลมุนกับการพยายามรักษาตัวตนที่โลกคาดหวังให้เราเป็น
แต่วัยเกษียณช่วยลดเสียงต่างๆ ให้เบาลง
และทันใดนั้นเอง ก็มีที่ว่างเกิดขึ้น
และในที่ว่างตรงนั้น ตัวตนอื่นๆ ของเราก็เริ่มไหลกลับเข้ามาหา
มันไม่ได้มาในรูปแบบของการกล่าวโทษ แต่มันมาในรูปแบบของเหล่าดวงวิญญาณแห่งความเป็นไปได้
มันนั่งอยู่กับเราตอนที่เรากำลังจิบชายามเช้า มันท่องไปในโลกแห่งความคิดในขณะที่เราควรสนใจเรื่องอื่นอยู่
มันไม่มีคำร้องขอใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งความขุ่นเคือง
มันอยู่ตรงนั้นเพียงเพื่อคอยย้ำเตือนว่า ชีวิตไม่ใช่เส้นทางสายเดียว แต่เป็นการจำกัดเส้นทางให้ค่อยๆ แคบลง
และนั่นอาจเป็นความเสียใจที่แท้จริง ความเสียใจอันไม่ได้เกิดจากทางที่เราเลือกเดิน แต่เป็นความเสียใจเพราะรู้ซึ้งแล้วว่าเราไม่อาจเลือกเดินทุกเส้นทางได้จริงๆ
เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ เราจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง และในขณะเดียวกันก็ต้องอาลัยอาวรณ์กับอีกนับร้อยนับพันอย่างที่เราไม่สามารถเป็นได้
แม้กระทั่งชีวิตที่ออกมาดี – โดยเฉพาะชีวิตที่ออกมาดี – ย่อมทอดเงาของอีกหลายชีวิตที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ไม่นานมานี้ผมลองทำอะไรบางอย่างที่ต่างออกไป
แทนที่จะเศร้าโศกกับตัวตนที่ไม่เคยได้เป็น ผมนั่งอยู่กับมันอย่างใกล้ชิด
ผมปล่อยให้นักเขียนนิยายกระซิบข้างหูถึงถ้อยคำที่ผมอาจเขียนขึ้นมา
ผมปล่อยให้ช่างไม้เตือนผมว่ามือทั้งสองยังจำได้ว่าจะสร้างสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร
ผมปล่อยให้คนต่างถิ่นดึงเสื้อของผมเพื่อบอกเล่าเก้าสิบอย่างตื่นเต้นถึงสถานที่ที่ผมยังไม่เคยได้ไปเยือน
บางทีประเด็นมันอาจใช่ว่าพวกเขาเหล่านั้นหายไป
บางทีประเด็นอาจเป็นว่าพวกเขาเฝ้าคอยมานานแสนนาน เพื่อรอวันที่ผมจะมีเวลาฟังพวกเขาบ้าง
เพราะว่าในที่สุด วันนี้คือวันที่ผมมีเวลาแล้วจริงๆ
ในวัยหนุ่มสาว คำที่เรามักบอกกับตัวเองโดยไม่รู้ตัวก็คือ “รอให้มีเวลามากกว่านี้ก่อน”
แต่เราไม่เคยมีเวลามากขึ้นเลย เอาที่จริงแล้วมันมีแต่จะน้อยลงด้วยซ้ำ
ยิ่งเราเติบโตในหน้าที่การงาน ยิ่งสร้างครอบครัว ยิ่งมีคนให้ต้องดูแล แม้กระทั่งเวลาที่จะมีให้ตัวเองยังหาได้ยากเย็น
ความฝันหรือความปรารถนาหลายต่อหลายอย่างจึงถูกวางกองไว้ตรงหัวมุมห้อง
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในวัยสี่สิบกว่าๆ และลูกโตพอจะดูแลตัวเองได้แล้ว คือเราควรเอาหยิบความฝันและบางความปรารถนามาปัดฝุ่นใหม่
ลองลงมือทำในสิ่งที่เราอยากทำมานาน เท่ากำลังและเวลาที่เรามี มันอาจไม่ได้ออกมาสวยหรูเหมือนสิ่งที่อยู่ในจินตนาการ แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้ทำให้มันเกิดขึ้นจริง เพราะเราปฏิเสธที่จะบอกและหลอกตัวเองแล้วว่า “รอให้มีเวลามากกว่านี้ก่อน”
สิ่งที่ผ่านไปแล้วเรากลับไปแก้อะไรไม่ได้ ส่วนอนาคตก็ไม่ใช่สิ่งที่การันตีว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่มีอยู่จริงเพียงอย่างเดียวคือวันนี้และตอนนี้เท่านั้น
ขอให้เราจัดสรรเวลาให้กับตัวตนบางอย่างที่รอคอยเรามานานเกินพอครับ
