ชีวิตเราจะ pivot ไปอย่างไร

ใครที่ใช้ Excel มาระดับหนึ่ง ย่อมรู้จักสิ่งที่เรียกกันติดปากว่า “ไพวอตเทเบิล” Pivot Table (จริงๆ อ่านว่า พิเวิต) ซึ่งช่วยให้เรานำข้อมูลที่มีอยู่มาสรุปเป็นตารางได้อย่างรวดเร็ว

คำว่า pivot มาโด่งดังอีกครั้งจากหนังสือ The Lean Startup ของ Eric Ries ที่บอกว่าธุรกิจสตาร์ตอัปนั้นสามารถ “มุ่งสู่ทิศทางใหม่” โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเป้าหมายธุรกิจที่ตั้งเอาไว้แต่แรก

แอปในการช็อปปิ้งชื่อ Tote พิเวิตตัวเองมาเป็น Pinterest

บริษัททำพอดคาสท์ชื่อ Odeo พิเวิตตัวเองมาเป็น Twitter

แอป Burbn ที่เอาไว้ใช้เช็คอินตามร้านอาหาร พิเวิตตัวเองมาเป็น Instagram

และบริษัทที่สร้าง Operating System ให้กล้องดิจิทัลก็พิเวิตมาเป็น Android

อย่านึกว่าการ pivot นี้มีอยู่ในแต่สตาร์ทอัพเท่านั้น เพราะ BMW ก็เริ่มต้นด้วยการผลิตเครื่องยนต์ในเครื่องบิน Nokia เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตเยื่อกระดาษ และ Samsung ก็เริ่มต้นจากการเป็นร้านขายของชำ

บริษัทไทยก็ pivot ตัวเองไปไม่น้อย ที่เห็นชัดๆ ก็เช่น RS ที่ pivot จากค่ายเพลงไปขายเครื่องสำอาง

เมื่อบริษัทยัง pivot ตัวเองได้ ทำไมปัจเจกบุคคลจะ pivot ตัวเองไม่ได้

ยิ่งในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วขนาดนี้ ชุดความรู้ที่เรามีอาจใช้ไม่ได้ในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทที่เราอยู่และยอด followers ที่เรามีไม่อาจมอบความมั่นคงให้กับเราได้ แต่ถ้าเรายืดหยุ่นมากพอทั้งทางความคิดและทางทักษะ เราก็พร้อมจะ pivot เมื่อวิกฤติและโอกาสมาถึง

วันนี้วันจันทร์ วันแรกของการทำงานในสัปดาห์ นอกจากจะตั้งใจทำงานตรงหน้าให้ดีแล้ว อย่าลืมสำรวจความเป็นไปได้ด้วยนะครับว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้มันเอื้อให้เรา pivot ไปทำอะไรในอนาคตได้อีกบ้าง