กว้าง 1 โยชน์ ลึก 1 ศอก

20180114_shallow

รู้สึกเหมือนผมมั้ยครับว่า ชีวิตของเรากว้างขึ้นทุกวัน และตื้นเขินลงทุกที

เรารับข่าวสารวันละนับร้อย ทำให้รู้ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้จริงซักเรื่อง

หนึ่งวันเราอ่านโพสต์ได้เป็นสิบ แต่หนึ่งปีเราอ่านหนังสือได้ไม่ถึงสิบเล่ม

เรารู้ว่านักบอลฝรั่งคนนั้นกำลังเดตกับดาราคนไหน แต่เราไม่รู้ว่าช่วงนี้แม่อยากกินอะไร

เรามีอาหารอร่อยๆ ให้เลือกกินเยอะแยะ แต่ตอนกินเรากลับไม่ค่อยรู้รสชาติเพราะทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยเสมอ

เรามีเพื่อนในเฟซเป็นพันคน แต่ในพันคนนั้นจะมีซักกี่คนที่จะอาสาพาเราไปหาหมอในวันที่เราป่วย

กว้าง 1 โยชน์ ลึก 1 ศอก

จะขอให้กว้าง 1 ศอก ลึก 1 โยชน์ก็คงเป็นไปได้ยาก

แต่คงจะดี หากเราหมกมุ่นกับปริมาณให้น้อยลง และใส่ใจกับคุณภาพให้มากขึ้นครับ


เปิดรับสมัคร Time Management รุ่น 6 & 7 เรียนเสาร์ที่ 3 ก.พ.  >> https://goo.gl/U55hAb

หนังสือ Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 วางแผงแล้วหาซื้อได้ที่ B2S ซีเอ็ด นายอินทร์  คิโนะคุนิยะ Asia Books และร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งตรงกับสำนักพิมพ์ได้ที่ bit.ly/tgimorder2 ครับ

สุขสร้าง

20180113_createhappy

ความสุขที่มนุษย์คุ้นเคยกันดี คือความสุขจากการเสพ

เสพอาหารอร่อยๆ เสพเพลงเพราะๆ เสพคำคมๆ

เสพดารา เสพดราม่า เสพการเมือง

แต่ความสุขอีกแบบหนึ่งที่เราอาจไม่คุ้นเคยเท่า คือความสุขจากการได้สร้างอะไรขึ้นมากับมือ

เขียนบทความ ถ่ายภาพ ตัดต่อวีดีโอ แต่งเพลง วาดภาพ ทำงานคราฟท์ ทำอาหาร อบขนม ถักโครเชต์

การเสพคือการนำสิ่งภายนอกเข้าสู่ภายใน

การสร้างคือการนำสิ่งที่อยู่ภายในออกมาภายนอก

การเสพนั้นใช้ตาดูกับหูฟัง

การสร้างนั้นใช้มือสอง เท้าสอง สมองคิด

สิ่งที่เราเสพจะอยู่กับเราแค่ชั่วคราว

สิ่งที่เราสร้างอาจอยู่ได้เป็นร้อยปี

ถ้าช่วงไหนที่เรารู้สึกเบื่อหน่ายชีวิต ความน่าจะเป็นคือเราอาจกำลังเสพมากไป

และน่าจะรู้สึกดีขึ้นได้ด้วยการสร้างให้มากขึ้นครับ

สุขภาพดีด้วย EMS

20180113_ems

ไม่ได้ชวนไปส่งไปรษณีย์ชิงโชคอะไรหรอกนะครับ

พอดีมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Eat Move Sleep: How Small Choices Lead to Big Changes ของ Tom Rath

ซึ่งผมยังไม่ได้อ่าน และยังไม่ได้ซื้อ แต่ก็คิดว่าเพียงชื่อหนังสือก็นำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตได้แล้ว

จึงอยากแชร์มุมมองและสิ่งรู้เกี่ยวกับสามเรื่องนี้ โดยเนืื้อหาอาจไม่ได้ตรงกับหนังสือ Eat Move Sleep ครับ

Eat – อย่ากินอิ่มเกินไป ปล่อยตัวเองให้หิวเสียบ้างเพราะมันจะช่วยทำให้ร่างกายหลั่ง Growth Hormone หรือฮอร์โมนที่ทำให้กลับไปเป็นหนุ่มสาว (จากหนังสือยิ่ง “หิวยิ่งสุขภาพดี” สำนักพิมพ์วีเลิร์น)

อาจจะคิดมากไปเอง แต่ระยะหลังๆ ผมรู้สึกว่าเวลากินแซนด์วิชจากร้านสะดวกซื้อ แต่ละคำมันไม่ค่อยมี “พลังชีวิต” อยู่ซักเท่าไหร่ ผิดกับอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ จากเตาที่มีมีชีวิตชีวากว่ามาก

Move – มนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้นั่งโต๊ะทำงานติดๆ กันหลายชั่วโมง ร่างกายของเราถูกวิวัฒนาการให้เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เพราะ Homo Sapiens หากินด้วยการล่าสัตว์-เก็บพืชผลเป็นแสนปี แต่ Homo Sapiens เพิ่งหากินด้วยการนั่งเก้าอี้ออฟฟิศมาแค่ร้อยปีเท่านั้น

มีคนเขียนไว้ว่า Sitting is the new Smoking คือการนั่งอยู่กับที่นี่ทำร้ายสุขภาพได้พอๆ กับการสูบบุหรี่เลยทีเดียว อาจจะฟังดูเว่อร์ไปซักนิดแต่ก็ควรค่าแก่การเก็บไปคิดครับ

ถ้ามองว่าเก้าอี้คือแหล่งเพาะโรค เราก็ควรจะลุกหนีจากมันบ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนสหรือวิ่งเป็นกิโลก็ได้ ขอแค่ให้ได้ไปเดินยืดเส้นยืดสายอย่างสม่ำเสมอก็ดีอาจเพียงพอแล้ว

Sleep – ผมเคยฟังพอดคาสท์ของ James Altucher ที่สัมภาษณ์คนๆ หนึ่งที่เคยหมกมุ่นเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกายมาก แต่เขาก็ได้ค้นพบว่าการนอนนั้นมีผลต่อสุขภาพมากกว่าการกินอาหารบวกออกกำลังกายรวมกันเสียอีก ต่อให้คุณกินอาหารดีแค่ไหน ออกกำลังกายมากเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายคุณก็แย่อยู่ดี

แต่ก่อนต่อให้ต้องนอนดึกแค่ไหน ผมก็ต้องเขียนบล็อกให้เสร็จให้จงได้ แต่เดี๋ยวนี้ผมขอนอนก่อนดีกว่า ตื่นมาจึงค่อยเขียนชดเชยเอา เพราะคนอ่านบล็อกเยอะแค่ไหนก็ไม่คุ้มกับการเอาสุขภาพเข้าไปแลก

EMS – Eat Move Sleep จำสามตัวนี้ไว้ให้มั่น แล้วสุขภาพเราจะดีโดยที่ไม่ต้องออกแรงมากนักครับ

นิทานเศรษฐีกับยาจก

20180112_poorrich

วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ

ยาจกคนหนึ่งคร่ำครวญกับพระเจ้าว่า

“ท่านไม่มีความยุติธรรมเลย ทำไมคนรวยถึงสบายกันนักในขณะที่ผมต้องทำงานหนักเพียงเพื่อจะมีข้าวกินไปวันๆ”

พระเจ้าจึงเสกให้เศรษฐีคนหนึ่งสูญเสียทุกอย่างจนมีฐานะเท่ากับยาจกคนนั้น แล้วมอบเบ็ดตกปลาให้กับเขาทั้งสอง

ยาจกเอาเบ็ดจากพระเจ้าไปตกปลาจนได้ปลามา 10 ตัว เขาเอาปลาทั้งหมดที่ได้ไปขายจนได้เงินมา 200 บาท ยาจกดีใจมาก จึงซื้อผัก ซื้อข้าว และซื้อเนื้อสัตว์เพื่อไปทำอาหารมื้อพิเศษกินกับครอบครัวของตัวเอง คืนนั้นยาจกเข้านอนอย่างมีความสุขที่สุดในรอบหลายปี

เศรษฐีใช้เบ็ดของพระเจ้าตกปลาได้ 10 ตัวเหมือนกัน แต่เอาไปขายที่ตลาดแค่ 9 ตัว ได้เงินมา 180 บาท ส่วนปลาอีก 1 ตัวเศรษฐีเอากลับบ้านเพื่อไปทำเป็นอาหารมื้อเย็นของครอบครัว แต่ปลาตัวเดียวจะไปอิ่มอะไร คืนนั้นเศรษฐีและครอบครัวจึงเข้านอนด้วยท้องที่ร้องครากๆ

วันต่อมา เศรษฐีเอาเงิน 80 บาทไปฝากธนาคาร และใช้ 100 บาทที่เหลือจ้างคนมาช่วยเขาตกปลาจนได้ปลามา 20 ตัว

ส่วนยาจกนั้นตกปลาได้ 10 ตัวเหมือนเดิมและเอาเงินไปซื้อกับข้าวเพื่อทำอาหารมื้อใหญ่ให้ครอบครัวตัวเองเหมือนเดิม

เศรษฐีและยาจกทำแบบเดิมทุกวัน จนมาวันหนึ่งเศรษฐีก็มีเงินเก็บมากพอเพื่อจะเอาไปลงทุนและเปิดธุรกิจอื่นๆ จนเศรษฐีได้กลับมาเป็นเศรษฐีจริงๆ อีกครั้ง

…ส่วนยาจกก็ยังคงเป็นยาจกต่อไป

—–

ขอบคุณนิทานจาก Quora: Victor Ying’s answer to Rich, millionaire and billionaire people: If you were broke, what would you do with $250 to become wealthy again?

มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

20180111_notthatgreat

โตไวๆ ก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

หาเงินได้เองก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

ได้มีแฟนก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

ได้แต่งงานก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

ได้มีลูกก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

มีเงินเดือนเหยียบแสนก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

มีเงินเก็บเป็นล้านก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

ได้อยู่บ้านเฉยๆ ก็ดี แต่มันไม่ได้ดีขนาดนั้น

ในทางกลับกัน เรื่องบางเรื่องที่เราคิดว่าแย่ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น โดยเฉพาะเมื่อมองย้อนกลับไป

สอบตกนั้นแย่ แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

อกหักนั้นแย่ แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

มีลูกเล็กจนอดนอนนั้นแย่ แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

อดไปเที่ยวนั้นแย่ แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

โดนเจ้านายด่านั้นแย่ แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

ตกงานนั้นแย่ แต่มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น

เพราะมนุษย์ปรับตัวเก่ง และทุกอย่างเป็นเรื่องชั่วคราว

มันจึงไม่ได้ดีอย่างที่เราฝัน และไม่ได้แย่อย่างที่เรากลัวครับ