
ในหนังสือสอนรวย หนึ่งในเหตุผลที่ผู้เขียนมักหยิบยกขึ้นมากระตุ้นให้พนักงานประจำออกมาเป็นนายของตัวเองก็คือ
“ทำไมคุณต้องทำงานหนัก เพื่อไปทำให้คนอื่นรวยด้วย?”
ซึ่งผมว่ามันเป็นตรรกะที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่นะ
ถ้าใช้ตรรกะเดียวกันจากมุมของเจ้านายหรือเจ้าของธุรกิจ มันก็จะกลายเป็น
“ทำไมผมต้องแบกรับความเสี่ยงอยู่คนเดียว เพื่อให้คนอื่นได้มีงานทำด้วย?”
พูดกันแฟร์ๆ เวลาธุรกิจเจริญรุ่งเรือง พนักงานก็ได้โบนัส ได้ขึ้นเงินเดือนและปรับตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเจ้านายไม่ได้รวยคนเดียว ลูกน้องก็รวยด้วยเพียงแต่ไม่ได้รวยเท่าเจ้านาย
แต่เวลาธุรกิจเจ๊ง คนที่เจ๊งคือเจ้านายคนเดียวนะครับ
สำหรับเจ้าของบางคน นั่นอาจหมายถึงเงินที่เขาเก็บสะสมมาทั้งชีวิต อาจหมายถึงบ้านที่หลุดจำนอง และอาจหมายถึงการติดคุกติดตาราง
ส่วนพนักงานประจำนั้นแม้ธุรกิจจะเจ๊งก็ลาออกไปทำงานที่อื่นได้ทุกเมื่อ ถ้าคุณมีดีพอ
กฎเหล็กในโลกทุนนิยมก็คือ High Risk, High Return และ Low Risk, Low Return
เจ้าของธุรกิจอยู่ในจำพวกแรก ส่วนพนักงานอยู่ในจำพวกหลัง
เจ้าของธุรกิจเวลารุ่งก็อาจรวยเป็น 100 ล้าน แต่เวลาเจ๊งก็อาจติดลบเป็น 100 ล้าน
พนักงานเวลารุ่งอาจรวย 1 ล้านบาท เวลาเจ๊งนั้นอาจติดลบอยู่แค่ไม่กี่หมื่น (ช่วงที่หางานใหม่)
เจ้าของธุรกิจ Upside กับ Downside นั้นมีมากพอกัน ส่วนพนักงานประจำนั้น Upside มีไม่เยอะ ส่วน Downside นั้นแทบไม่มีเลย
เพราะฉะนั้น ถ้าเราเป็นพนักงานประจำ ก็ขออย่าได้เอาความคิด “ทำงานแทบตายเจ้านายรวยคนเดียว” มาเป็นข้ออ้างที่จะทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเลยครับ
เพราะนอกจากจะเป็นตรรกะที่ไม่สมประกอบแล้ว มันยังทำร้ายตัวเราเองในระยะยาวด้วย
—–
เปิดรับสมัคร Time Management Workshop รอบบ่ายวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม (เหลือ 4 ที่นั่ง) ดูรายละเอียดได้ที่นี่ครับ https://goo.gl/Scii9o
หนังสือ “Thank God It’s Monday ขอบคุณโลกนี้ที่มีงานประจำ” เริ่มขาดตลาดแล้ว หากหาซื้อไม่ได้ สามารถสั่งออนไลน์กับผม (พร้อมลายเซ็น) ได้ที่ bit.ly/tgimorder ครับ