
ใครเคยต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพราะต้องรีบไปขึ้นเครื่องบินบ้างครับ?
บางทีกว่าจะเก็บกระเป๋าเสร็จก็เลยเที่ยงคืน ตี 4 ก็ต้องตื่นมาอาบน้ำอาบท่าเพื่อไปให้ถึงสนามบินก่อนหกโมงเช้า
น่าแปลก ที่ถึงจะได้นอนแค่สี่ชั่วโมง แต่เรากลับไม่งัวเงีย ไม่ใจเสาะ ไม่เคยกด snooze เพื่อขอกลับไปนอนต่อ “อีกหน่อย” เหมือนวันทำงาน
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
หนึ่ง เพราะว่าเราตื่นเต้นกับการผจญภัยที่รออยู่ข้างหน้า
สอง เพราะว่าเราไม่อยากตกเครื่องบิน
ตั๋วก็ซื้อไปแล้ว ถ้าไปสายก็ไม่รู้จะหาตั๋วใหม่ได้หรือเปล่า การนอนต่ออีกหน่อยแม้เพียงสิบห้านาทีอาจทำให้แผนการผจญภัยรวนไปหมด
เราจึงไม่กล้านอนต่อเพราะเรามี “เดิมพันสูง” นั่นเอง
กลับกัน ในวันธรรมดา เรากลับกดปุ่ม snooze ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และสายแบบเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
การออกจากบ้านช้าเพียง 15 นาที อาจทำให้เราต้องเสียเวลาเดินทางเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งชั่วโมง
ถ้าสัปดาห์หนึ่งเรา “นอนต่ออีกซักหน่อย” ซักสองครั้ง ก็เสียเวลาเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง หรือปีละประมาณ 100 ชั่วโมง
เราทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง เดือนละสี่สัปดาห์ก็คิดเป็น 160 ชั่วโมง
ถ้าเราได้เงินเดือน 16,000 บาท แสดงว่าหนึ่งชั่วโมงของเรามีมูลค่า 16,000 บาท / 160 ชั่วโมง = 100 บาท
ในหนึ่งปี 100 ชั่วโมงที่เสียไป จึงมีมูลค่า 10,000 บาท
ซื้อตั๋วการบินไทยกรุงเทพ-ฮ่องกงได้เลย
ตัวเลขความเสียหายจะยิ่งสูงกว่านี้ ถ้าเราได้เงินเดือนแพงกว่านั้น
เช่นคนที่เงินเดือน 64,000 หนึ่งชั่วโมงจะมีมูลค่า 400 บาท (64,000 บาท หารเดือนละ 160 ชั่วโมง เท่ากับ 400 บาท)
100 ชั่วโมงที่เสียไปจึงมีมูลค่า 40,000 บาท ซื้อตั๋ว-ไปกลับสวิตเซอร์แลนด์ได้เลย
ประเด็นของผมก็คือ การที่เรานอนตื่นสายในวันธรรมดานั้น มันคือการ “ตกเครื่องบินผ่อนส่ง” ดีๆ นี่เอง
เป็นไปได้มั้ย ที่เราจะบอกตัวเองให้ตื่นโดยไม่กด snooze เพราะเราต้องรีบไปขึ้น “เที่ยวบินแห่งชีวิต”
เป็นเที่ยวบินที่ “เดิมพันสูง” เหมือนกัน
เพราะแต่ละวันก็มีเรื่องให้ผจญภัย
และเราไม่รู้เลยว่าสายการนี้ยังเหลือเที่ยวบินอีกกี่เที่ยว
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ที่ปุ่มไลค์จะมี drop down menu ให้เลือกได้ว่าอยากจะให้มี notifications หรืออยากเห็นโพสต์จากเพจนี้อยู่ต้นๆ ฟีดรึเปล่าครับ)
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”
ขอบคุณภาพจาก Pexels.com
เขียนได้ดีมากค่ะ ได้อารมร์ที่โดนใจได้ทุกวัน ขอบคุณมากค่ะ ในความตั้งใจเขียน นับถือมากกค่ะ เพราะตอนนี้เป็นช่วงไม่ค่อยมีสติ พอได้อ่านบทความของคุณก็สามารถดึงสติกลับมาได้ค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
LikeLike