
“Never believe that a few caring people can’t change the world. For, indeed, that’s all who ever have.”
อย่าคิดว่าคนที่ห่วงใยและทุ่มเทเพียงหยิบมือจะเปลี่ยนโลกไม่ได้
เพราะจริงๆ แล้วที่ผ่านมาก็มีแต่คนกลุ่มนี้แหละที่ได้เปลี่ยนโลก– Margaret Mead
ความเชื่ออย่างหนึ่งที่เรามีกันก็คือ คนตัวเล็กๆ อย่างเราจะไปทำอะไรได้?
แต่เราลืมไปว่า ก่อนที่จะมาเป็น “คนตัวใหญ่” คนเหล่านั้นก็เคยเป็นคนตัวเล็กๆ มาก่อนทั้งนั้น
ทนายชาวอินเดียคนหนึ่งที่ไปว่าความที่แอฟริกา ซื้อตั๋วรถไฟเฟิร์สท์คลาสแต่กลับถูกสั่งให้ย้ายไปที่นั่งของรถไฟชั้นสามเพียงเพราะเขาไม่ได้ผิวขาว พอเขาไม่ยอมก็ถูกโยนลงจากรถไฟ
ใครจะไปคิดว่าทนายตัวเล็กๆคนนี้จะกลายมาเป็น “มหาตมะ” ที่นำการต่อสู้โดยสันติจนอินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ?
หรือเด็กสาวตัวเล็กๆ จากร้อยเอ็ดที่มาฝึกตีแบดในสนามของเจ้าของโรงงานขนมทองหยอด ใครจะไปคิดว่าเธอจะสามารถเอาชนะมหาอำนาจลูกขนไก่จากจีนและขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกได้?
บางทีการเป็น “คนตัวใหญ่” อาจไม่ยากอย่างที่คิด
เพราะ 99.9% ของมนุษย์คิดว่า “ตัวเล็กๆ อย่างเราจะไปทำอะไรได้” การที่เราแคร์มากกว่าคนอื่นและออกแรง มากกว่าคนอื่นอีกซักหน่อย เราก็จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของประชากร 0.1% หรือ 1 ใน 1000 ทันที
มีคนอีกไม่น้อยที่อาจมีความคิดที่คล้ายๆ กับเรา เพียงแต่เชื่อว่าตัวเองไม่มีแรง / ไม่มีเวลา / ไม่มีความสามารถ ก็เลยยังไม่ได้ลงมือทำอะไร ดังนั้นหากมี 1 คนขึ้นมานำ อีก 999 คนที่มีความเชื่อเดียวกันก็พร้อมที่จะสนับสนุน
ยิ่งสมัยนี้เรามีเครื่องมืออย่างอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียด้วยแล้ว การหาแนวร่วมและส่งต่อความคิดยิ่งทำได้ง่ายขึ้นไปอีก
นี่จึงเป็นยุคที่คนตัวเล็กๆ อย่างเราสามารถสร้างความแตกต่างได้มากกว่ายุคใดๆ ที่ผ่านมา
ขอแค่ลงมือทำ และไม่ยอมแพ้เท่านั้นเอง
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ที่ปุ่มไลค์จะมี drop down menu ให้เลือกได้ว่าอยากจะให้มี notifications หรืออยากเห็นโพสต์จากเพจนี้อยู่ต้นๆ ฟีดรึเปล่าครับ)
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com