ความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ดี มันมาเตือนว่าเราทำอะไรผิด ทำให้เรากลับมาหาตัวเอง
เราสนใจแต่เรื่องคนอื่น จนเราเป็นหวัดนั่นแหละ เราถึงรู้ตัวว่าเราหายใจอยู่
– โจน จันได
—–
เมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมมีโอกาสพูดคุยกับกลุ่ม Women’s Network ที่บริษัท หัวข้อเรื่องคือการบริหารจัดการเวลา (time management) และมีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นกันในเรื่องวิถีชีวิตคนกรุงที่มีภาระหน้าที่หลายอย่าง
มีคนถามผมว่า ผมดื่มกาแฟรึเปล่า ผมบอกว่าผมไม่ดื่ม
เพราะนอกจากจะไม่ชอบรสชาติและราคาสูงแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่นิยมกาแฟ
คนทำงานหลายคนดื่มกาแฟเพราะต้องการเพิ่มคาเฟอีนเข้าไปให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับความง่วง และมีแรงลุยงานได้
กลายเป็นว่า ถ้าไม่ดื่มกาแฟ จะทำงานได้ไม่เต็มที่
ผมคิดว่าการดื่มกาแฟเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ที่เราง่วงหงาวหาวนอน แสดงว่าร่างกายของเราพักผ่อนไม่เพียงพอ แสดงว่าเรากำลังใช้ชีวิตแบบไม่เป็นมิตรกับร่างกายตัวเอง
การดื่มกาแฟจึงเหมือนเป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงแม้ว่าในระยะสั้นมันจะไม่ได้ส่งผลอะไร แต่ความเหนื่อยล้าที่ร่างกายสะสมเอาไว้ ยังไงมันก็ยังอยู่ตรงนั้น รอวันที่จะแสดงผล
แทนที่จะกินกาแฟเพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น แต่สร้างปัญหาเรื้อรังในระยะยาว ทำไมเราไม่แก้ที่ต้นเหตุด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ?
บางคนอาจจะบอกว่า มีภาระหน้าที่มากมาย จะให้นอนวันละ 7-8 ชั่วโมงทำไม่ได้หรอก ก็ต้องกินกาแฟไปอย่างนี้แหละ
แต่เราไม่มีเวลาพักผ่อนจริงๆ หรือ?
ในเมื่อเรายังมีเวลาเล่นเฟซบุ๊คและเข้ามาอ่านบล็อกนี้ หรือยังมีเวลาดูละคร อ่านกระทู้ดราม่า หรืออ่านข่าวสารในไลน์?
ละครทีวี อวสานแล้วก็จบไป กระทู้ดราม่าเดี๋ยวคนก็ลืม ข่าวในไลน์ทั้งหลายก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเราเท่าไหร่
แต่ผลจากการพักผ่อนไม่เพียงพอจนร่างกายทรุดโทรม มันจะมีผลกับเราไปนานเลยนะครับ
สำหรับผม การดูแลร่างกายให้แข็งแรง เป็นหนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญที่สุดที่เรามีต่อตัวเอง
และเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดต่อองค์กรด้วย
เพราะถ้าเราทำงานหนักวันละ 10-12 ชั่วโมง แม้ระยะแรกจะทนได้ แต่พอถึงวันหนึ่งร่างกายมันไปต่อไม่ไหว เจ็บไข้เข้าโรงพยาบาลขึ้นมา องค์กรก็ต้องมาจ่ายเงินให้เราฟรีๆ โดยที่เราไม่ได้ทำงานอะไรให้เลย สถานการณ์อย่างนี้ย่อมเสียประโยชน์ทั้งลูกจ้างและนายจ้าง
แต่ถ้าเราดูแลร่างกายของเราดี ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกวัน วันละ 8 ชั่วโมงก็ควรเพียงพอแล้วที่จะทำหน้าที่ของเราได้ครบถ้วนสมบูรณ์
ถ้างานยังมีเยอะเกินไป นั่นเป็นปัญหาที่หัวหน้าเราควรแก้ไขด้วยการหาคนมาเพิ่ม หรือตัดงานบางอย่างทิ้ง ไม่ใช่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการให้เราทำงานดึกๆ ดื่นๆ ครับ
—–
ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสาร a day เล่ม 170 หน้า 24
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
—–
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ Archives
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings
