เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปดูคอนเสิร์ต “เพลงของประภาส 2” ที่โรงละครเคแบงค์ สยามพิฆเนศครับ
เป็นรอบบ่ายสองโมง ถือเป็นรอบที่ 3 จากทั้งหมด 4 รอบ (รอบสุดท้ายคือ 19.30 วันเดียวกันนั้น)
ในรอบสามปีมานี้ ผมได้ดูคอนเสิร์ตไปประมาณ 6 คอนเสิร์ต
คอนเสิร์ตประภาส 2 คือคอนเสิร์ตที่ผมร้องเพลงตามได้น้อยที่สุด
แต่มันก็เป็นคอนเสิร์ตที่ผมชอบมากที่สุดด้วย
จึงขอมาบันทึกเอาไว้ว่า อะไรที่ทำให้ผมชอบคอนเสิร์ตนี้ โดยเรียงตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้นนะครับ
1. ความแน่นของซาวด์
ตอนเดินเข้ามาโรงละคร สิ่งแรกที่รู้สึกเลยว่าคอนเสิร์ตนี้แตกต่างกับคอนเสิร์ตอื่นที่เคยไปมา คือความ “ปึ๊ก” ของระบบเสียง นักดนตรี+นักร้องคอรัสจัดเต็มมาก มากันไม่ต่ำกว่า 30 ชีวิต (รวมถึงเครื่องสายอย่างไวโอลิน เชลโล และดับเบิลเบสด้วย) ทำเอาเวทีดูเล็กไปถนัดตา ต้องยกความดีความชอบให้กับทีม Sound Engineering และ Music Director ทั้งสองท่านคือ คุณหนึ่ง จักรวาร และ คุณจักรพัฒน์ เอี่ยมหนุน
2. ความรู้สึกใกล้ชิดกับคนดู
คอนเสิร์ตคราวนี้ มีคุณเจี๊ยบ วรรธนา มาเป็นผู้ดำเนินรายการ คอยปะติดปะต่อและเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการฝึกซ้อมและที่มาของเพลงบางเพลงให้ฟังกันอย่างเพลิดเพลิน
แถมบังเอิญผมเพิ่งได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคุณเจี๊ยบ – The Memory of Love ใน a day bulletin 100 Interview The Influencer เมื่อ 24 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น ความรู้สึกจึงยังกรุ่นๆ อยู่ พอได้มาฟังคุณเจี๊ยบเลยยิ่งรู้สึกมักคุ้นขึ้นไปใหญ่
และด้วยความที่สถานที่เป็นโรงละคร ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนสถานที่ที่ใช้จัดคอนเสิร์ตทั่วไป (ที่เห็นพี่ก้องนูโวตัวเท่าปลายนิ้วก้อย) ในฐานะคนดูเลยรู้สึกใกล้ชิดกับศิลปินเป็นพิเศษ
3. การประชันกันของ ชินกร ไกรลาศ กับ กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่
ผมรู้จักคุณอาชินกร ไกรลาศมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับลุงผมมาก แถมทั้งสองยังเคยร่วมงานกันด้วย จำได้ว่าสมัยที่คุณย่าผมยังอยู่ คุณอาชินกรเคยมาไหว้ย่าที่บ้านที่นครปฐมด้วย
เพลงที่คุณอาชินกรเอามาร้องคือเพลง “ป่าประท้วง” ซึ่งผมไม่รู้จักหรอก แต่พอขึ้นท่อนฮุคเท่านั้นแหละ ความทรงจำวัยเด็กก็พร่างพรูออกมา เพราะผมเคยชอบร้องท่อนนี้มากๆ
“คนเป็นสัตว์ประเสริฐ ไอ้เรามันเดรัจฉาน แต่เราไม่เคยรุกราน บ้านของใครเราไม่ไปทำลาย”
เพิ่งรู้ว่าพี่จิก (ชื่อเล่นของพี่ประภาส) แต่งเพลงนี้ด้วย!
เพลงนี้ได้กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ และน้องผอมๆ อีกสองคนมาช่วยร้องท่อนแร็พ ซึ่งใช้วาจาได้แซ่บถึงใจมาก เป็นการเอาคนสองเจนเนอเรชั่นมาประชันกันได้อย่างกลมกล่อม
4. ความฮาของพี่จุ้ย+พี่เจี๊ยบ
ตอนแรกพี่เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยมออกมาร้องหนึ่งเพลงก่อน แค่แกคุยคนเดียวก็เพลินแล้วนะ แต่พอพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยงขึ้นเวทีเท่านั้นแหละ หัวเราะกันจนท้องแข็งเลย เพราะรับส่งมุกกันแบบไม่มียั้ง เอาจริงๆ ผมขำกว่าตอนดูเดี่ยวไมโครโฟนอีก ช่วงท้ายมีแสตมป์มาแจมด้วย แต่แสตมป์ที่ว่าฮา มาเจอพี่จุ้ยพี่เจี๊ยบนี่กลายเป็นคนขรึมไปเลย
5. เสียงของแนน สาธิดา (นางเอกละครเวที โหมโรงเดอะมิวสิคัล)
ผมไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อนเลย แต่พอได้ฟังเธอร้องเพลงนิทานหิ่งห้อย ผมก็ได้แต่ถามตัวเองว่า นี่เราไปอยู่ไหนมาวะเนี่ย เสียงของคุณแนนก้องกังวานมาก แถมตอนลากเสียงสูงก็โน๊ตตรงเป๊ะ ฟังแล้วระรื่นหูสุดๆ (ถ้าไปเดอะว้อยซ์โค้ชก็คงหันมาทั้งสี่คน) ยิ่งพอได้ฟังคุณแนนพูดเชิญชวนไปดูโหมโรงเดอะมิวสิคัลที่จะกำลังจะกลับมาอีกครั้ง (มีแอบหัวเราะเขิน “เฮ่เฮ่” ด้วย) ยิ่งรู้สึกอยากมาดูขึ้นไปอีก (แต่คงยากเพราะตอนนี้ภรรยาท้องเก้าเดือนแล้ว)
6. อิมเมจร้องเพลงฟั่นเฟือน
เพลงนี้เป็นเพลงเดียวในคอนเสิร์ตนี้ที่ผมฟังแล้วน้ำตาคลอ
อาจจะเพราะว่าตอนเด็กๆ ผมเคยชอบเพลงนี้เอามากๆ (และร้องได้เฉพาะท่อนฮุคเช่นเคย)
“ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยรักใคร ไม่อยากรู้ว่าเคย…เคยถูกใคร หลอกจนเสียคนอย่างนี้
ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยนอนร้องไห้ ไม่อยากรู้ว่าเคย…เคยให้ชีวิตใครไป”
อิมเมจก็ยังคงเป็นอิมเมจ สามารถร้องออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ และพาเราด่ำดิ่งลงในห้วงอารมณ์ จนลืมไปเลยว่าน้องเค้าอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น
7. “ปรบมือ” และ “ร้องเพลง” ไปกับน้องๆ
แสตมป์ร้องเพลง “เสียงในความเงียบ” ซึ่งมีน้องๆ อีกสี่คนจากโรงเรียนเศรษฐเสถียรมาเต้นด้วย
น้องเหล่านี้หูไม่ได้ยิน แสตมป์จึงสอน “ภาษามือ” ให้คนดูทุกคนมาร่วมร้องเพลงไปกับน้องๆ
เป็นอะไรที่ feel good มากๆ
8. ความเป็นธรรมชาติของจินตหรา พูนลาภ
อีกหนึ่งแขกเซอร์ไพรส์ของงาน กับเพลงเธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ เวอร์ชั่นหมอลำ ที่ต้องบอกตรงๆ ว่า ถ้าไม่มีซับไตเติ้ลผมคงฟังไม่รู้เรื่อง ยกเว้นท่อน “เจ้าสิหมุนรอบข้อย ข้อยสิหมุนรอบเจ้า”
แต่จุดประทับใจจริงๆ คือตอนที่พี่จุ้ยขึ้นมาคุยกับน้องจิน แซวกันไปมาจนน้ำตาเล็ดอีกแล้ว ก่อนที่ทั้งจะร้องเพลง “สาวลาวบ่าวไทย” ด้วยกัน ซึ่งก็ผิดคิวกันสุดๆ เพราะร้องไปขำไป มีท่อนนึงที่จินตหราร้องว่า “ถ้าอยากให้น้องนี้ไปซม อย่าซวนลมๆ ยกขบวนมาสู่ขอ” แล้วหมุนตัวจะหันไปหาพี่จุ้ย แต่หาไม่เจอเพราะพี่จุ้ยดันเดินอ้อมหลังจินตหรามาอีกฝั่งนึงแล้ว จินตหราร้องเสียงหลงว่า “เอ้า พี่จุ้ยหายไปไหนอ่ะ” แล้วเธอก็ขำหนักมากจนเข่าอ่อนลงไปทรุดกับเวที #คนฟังก็หัวเราะหนักมากเช่นกัน
9. เรื่องเล่าของบี พีระพัฒน์
คุณบีบอกว่า เพราะเพลงที่พี่ประภาสแต่ง ถึงทำให้เขาโด่งดังไปทั่วประเทศ ได้ออกทีวีทุกช่องเป็นวาระแห่งชาติไปเลยทีเดียว
ไอ้ผมฟังแล้วก็งงว่าเพลงไหนหว่า
เพลง “วันพรุ่งนี้” ครับ
จำได้ไหม ตายายยังจำได้ไหม
ปู่ย่าจำได้ใช่ไหม สอนหนูอยู่แทบทุกปี
สอนให้เด็กต้องรักกัน มีคำขวัญให้สามัคคี
ให้ทำดี ให้อดออมพากเพียร
ฯลฯ
(ดูใน Youtube ได้ที่นี่ บี พีระพัฒน์เข้ามาตอนนาทีที่ 3:30)
ก่อนที่คสช.จะเอาเพลงนี้ไปใช้ เขาได้มาขออนุญาตกับทางเวิร์คพอยท์ด้วย และพี่คนหนึ่งที่เวิร์คพอยท์ชื่อพี่แก้วก็โทร.มาถามคุณบี
พี่แก้ว: บี คสช.เขาชอบเพลงวันพรุ่งนี้มากเลยนะ เขาอยากจะขอเอาไปใช้ บีขัดข้องอะไรมั้ย
บี: …เอ่อ คงไม่มีอะไรขัดข้องมั้งครับพี่!
ยังมีอีกเพลงหนึ่งที่พี่จิกแต่ง และบีได้ร้อง ที่โด่งดังมากจนได้เป็น “New Entry” ประจำเดือนสิงหาคม…ปั่นปั่นจักรยานไป ปั่นปั่นจักรยานกัน!
10.เสียงของพี่ประภาส
ตอนแรกก็แอบลุ้นเหมือนกันว่าพี่จิกจะออกมาตอนไหน
ปรากฎว่าตอนที่พิธีกรเชิญพี่จิกขึ้นเวที ผมดันกำลังก้มพิมพ์อะไรบางอย่างบนมือถืออยู่ พี่จิกโผล่มาจากด้านซ้ายมือของผม เดินผ่านหน้าผมไปในระยะห่างกันแค่ที่นั่งแถวเดียวกั้นอยู่ กว่าผมจะเงยหน้าจากจอก็เห็นแต่แผ่นหลังพี่เค้ากำลังเดินขึ้นเวทีซะแล้ว เลยอดเชยชมไอดอลของผมเลย
(ผมติดตามอ่านคอลัมน์ของพี่จิกมาตั้งแต่สมัยมติชนวันอาทิตย์หน้า 14 รุ่งเรือง และเหตุผลที่ผมซื้อ a day ตั้งแต่เล่มแรกก็เพราะว่าพี่ประภาสเขียนถึง)
พี่จิกขึ้นเวทีแล้วก็กล่าวขอบคุณศิลปินเป็นรายตัว พร้อมพูดถึงความประทับใจต่างๆ เช่นเจอแสตมป์ครั้งแรกที่คณะสถาปัตย์จุฬา ตอนนั้นแสตมป์เล่นกีตาร์ร้องเพลงเปิดหมวก พี่จิกสนใจจนเข้าไปทำความรู้จักและชวนมาร่วมงานกัน
แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่า ผมรู้จักพี่จิกผ่านตัวหนังสือ บทเพลง และรายการทีวีมาตั้งนาน แต่เราไม่เคยได้ยินเสียงของพี่เค้าเลยนี่หน่า
เสียงของพี่จิกต่างจากที่ผมจินตนาการไว้พอสมควร
พอฟังพี่จิกแล้วผมอดนึกถึงครั้งแรกที่ผมฟังเดวิด เบ็คแฮมให้สัมภาษณ์ไม่ได้ เพราะผมเองก็จินตนาการว่าเบ็คแฮมน่าจะเสียงทุ้มกว่านี้ (ใครไม่เคยได้ยินเสียง Beckham ลองเปิด Youtube หา David Beckham interview ดูได้ครับ)
แต่ถึงยังไง ผมก็ยังดีใจและภูมิใจได้ยินเสียงพี่นะครับ! (เพราะคนอีก 95% ที่ติดตามผลงานพี่น่าจะไม่เคยมีโอกาส)
11. พลังงานที่ได้จากคอนเสิร์ต
ข้อนี้น่าจะสำคัญที่สุด
คอนเสิร์ตคราวนี้ยาวถึงสี่ชั่วโมงครึ่ง (มีเบรค 15 นาที) แต่ไม่มีช่วงไหนที่น่าเบื่อเลย
ทั้งๆ ที่เพลงส่วนใหญ่ผมก็ไม่รู้จัก ศิลปินที่มาก็ไม่ใช่ศิลปินที่เราโปรดปรานมากมายนัก
แต่พอดูจบแล้วรู้สึกว่ามันอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้ชาร์จพลังงานบวกจนเต็มหลอด
และผมก็มั่นใจว่าหลายคนที่อยู่ ณ ตรงนั้น ก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
การที่สิ่งมหัศจรรย์อย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะความเอาใจใส่ของพี่ประภาสและทีมงานทุกคนจริงๆ
—-
และถึงแม้ผมไม่ได้เอ่ยชื่อพี่ป๊อด โมเดิร์นด๊อก พี่หนุ่มเสก พี่อุ้ย รวิวรรณ พี่ปั่น ไพบูลเกียรติ พี่เกี๊ยง เฉลียง ก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่ได้ประทับใจนะครับ แต่ถ้าให้เขียนถึงทุกท่านก็อาจจะทำให้บล็อกนี้ยาวเกินไป ยังไงพวกพี่ก็เป็นดาวค้างฟ้าอยู่แล้ว ผมไม่เขียนถึงก็คงไม่น้อยใจกันเนอะ
ตอนจบคอนเสิร์ต มีแฟนเพลงบางคนเข้าไปขอถ่ายรูปกับพี่ประภาส
ผมเองก็ชวนแฟนว่าอยากจะลงไปถ่ายบ้าง แต่เผอิญเห็นทีมงานมาตามพี่ประภาสไปเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตรอบถัดไป จึงไม่อยากรบกวนพี่เขา
(แฟนมาบอกทีหลังว่า พี่ประภาสหันมามองเธอด้วย สงสัยเพราะเห็นว่าเธอกำลังท้องแก่ รู้งี้น่าจะอาศัยสิทธิ์คนท้องเข้าไปขอถ่ายรูปซะเลย)
ขอบคุณพี่ประภาส เหล่าศิลปิน และทีมงานทุกคนอีกครั้งสำหรับคอนเสิร์ตดีๆ ในครั้งนี้ ที่ได้ส่งพลังงานให้พวกเรามากมาย
ผมตั้งใจแล้วว่า จะเอาพลังงานที่ได้มานั้นผ่องถ่ายไปยังงานสร้างสรรค์ ทั้งงานเขียนและงานดนตรี
ไม่แน่นะ ซักวันหนึ่ง พลังงานของผมจะส่งไปถึงพี่ประภาสบ้างก็ได้
—–
รายชื่อเพลงคอนเสิร์ตเพลงประภาส 2 รอบ 14.00 วันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค. 2558
(ที่จดลงในมือถือจนพลาตช็อตพี่ประภาสเดินขึ้นเวที หากตกหล่นหรือเขียนชื่อเพลงไหนผิดไป ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ)
ช่วงตัวจี๊ด
เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ – แสตมป์ อภิวัชร์
สักครั้งจะไม่ลืมพระคุณ – ป๊อด โมเดิร์นด๊อก
นาฬิกา – บี พีระพัฒน์
ช่วงศิษย์เก่า
รักเธอแต่เธอไม่รู้ – หนุ่มเสก
รักเป็นดั่งต้นไม้ – หนุ่มเสก
รุ้งอ้วน – อุ้ย รวิรรณ จินดา
พี่ชายที่แสนดี อุ้ย
ช่วงลำตัดประชันแร็พ
ป่าประท้วง – ชินกร ไกรลาศ ประชันกับ กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ & co.
ช่วงเฉลียง
เร่ขายฝัน – เจี๊ยบ วัชระ ปานเอี่ยม
เที่ยวละไม – จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง & เจี๊ยบ
เรื่องตลก (แปลงเนื้อ) – เจี๊ยบ จุ้ย แสตมป์
ช่วงนักร้องเสียงดี
ลมใต้ปีก – ปั่น ไพบูลเกียรติ เขียวแก้ว
นายไข่เจียว ปั่น
นิทานหิ่งห้อย – แนน สาธิดา
เสียงนั้นเสียงหนึ่ง แนน
ฟั่นเฟือน – อิมเมจ สุธิตา
สิ่งลึกลับซับซ้อนในจักรวาล – อิมเมจ & แสตมป์
ช่วงชวนคนดูร้องเพลงด้วยความเงียบ
เสียงในความเงียบ แสตมป์ + น้องๆ นักเรียน
ช่วงเฉลียง 2
โลกยังสวย [จัง-หวะ-จะ-เดิน] – เกี๊ยง เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์
ยังมี – เกี๊ยง
ช่วงลำซิ่ง
เธอหมุนรอบฉัน (หมอลำ) – จินตหรา พูนลาภ
สาวลาวบ่าวไทย – จินตรา + จุ้ย
ช่วงตัวจี๊ด 2
เจ้าหมอก – บี
เพราะอะไร – ป๊อด
ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน – ป๊อด
ช่วงปิดท้าย
เขียนให้เธอ เกี๊ยง + กอล์ฟ
—-
ป.ล. ขอบคุณพี่จัน พี่ที่ออฟฟิศที่ให้ตั๋วคอนเสิร์ตมาครับ
ภาพจากกล้องมือถือผู้เขียน
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archive/
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ถ้ากด Get Notifications ใต้ปุ่ม Like หรือเลือก See First ใต้ปุ่ม Following ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”