ช่วงนี้ทีวีในลิฟต์ที่บริษัท จะมีโฆษณาอาหารแมวยี่ห้อหนึ่งที่ผมเห็นบ่อยมาก
พระเอกของเรื่องคือแมวสีขาวตัวฟูๆ ขึ้นไปเล่นดอกไม้บนหลังตู้จนแจกันตกลงมาแตก หญิงสาวที่เป็นเจ้าของรีบวิ่งมาดู พอเห็นแจกันแตกเลยเงื้อมไม้จะตีแมว
แล้วกล้องก็ซูมไปที่หน้าของน้องแมวทำสีหน้าอ้อนวอน (เดาว่าคงต้องการให้ได้อารมณ์เหมือนเจ้าแมว Puss in Boots จากเรื่อง Shrek 2)
สุดท้ายเจ้าของก็ยิ้ม และหยิบแมวขึ้นมาอุ้ม
พร้อมกับเสียงพากษ์ว่า “ยังไงก็รัก”
ราวกับโฆษณาจะสื่อว่า หน้าตาน่ารักซะอย่าง ถึงจะทำผิด เจ้าของก็ให้อภัย
—–
One Piece คือการ์ตูนเรื่องโปรดของผม
พระเอกของเรื่องนี้คือลูฟี่ ชายผู้มีความฝันที่จะได้เป็นเจ้าแห่งโจรสลัด
วันหนึ่งลูฟี่ถูกส่งตัวมาที่เกาะอเมซอนลิลลี่ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาณาจักรหญิงล้วนภายใต้การนำของจักรพรรดินีโบอา แฮนค็อก หนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด
แฮนค็อกมีใบหน้าที่สวยงามและรูปร่างสมส่วน แม้เธอจะมีนิสัยที่เอาแต่ใจและขี้โมโหแบบไร้เหตุผลจนมักทำอะไรที่รุนแรงออกมา (เช่นเตะหมา-แมวที่มายืนขวางทาง!) แต่ผู้คนรอบข้างก็พร้อมให้อภัยเธอเสมอ เพราะว่าเธอนั้นสวยบาดใจ
—–
เมื่อปีที่แล้วผมได้อ่านบทความฝรั่งที่อ้างว่า คนที่หน้าตาดีจะมีรายได้สูงกว่าคนที่หน้าตาไม่ดีราว 12% โดยนักวิจัยให้เหตุผลสามข้อคือ
- คนหน้าตาดี มักจะถูกมองว่าเก่งกว่าคนหน้าตาไม่ดี
- คนหน้าตาดี มักจะมีความมั่นใจตัวเองสูงกว่า ซึ่งก็ทำให้ได้รับการดูแลดีกว่า และนำไปสู่ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว
- คนหน้าตาดีมีทักษะการเข้าสังคมมากกว่าคนที่หน้าตาขี้เหร่ และยิ่งเข้าสังคมบ่อยเท่าไหร่ ทักษะด้านการสื่อสารดีขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็เป็นการเพิ่มโอกาสการเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
อ้อ! แทนที่คนหน้าตาธรรมดาอย่างพวกเราจะตีโพยตีพายว่าโลกนี้ไม่แฟร์ ก็ขอบอกว่ามันยังพอมีทางออกนะครับ
เพราะเราสามารถเสริมสิ่งที่เราขาดไปได้ด้วยการแต่งตัวให้ดีขึ้นและพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งก็อาจจะช่วยให้เราได้รับผลประโยชน์สามข้อที่กล่าวมาเช่นกัน
—–
เคยเห็นคู่รักที่หน้าตาไม่สมน้ำสมเนื้อมั้ยครับ?
ประมาณว่าคนหนึ่งหน้าตาดีมากจนจะหาแฟนหล่อ/สวยแค่ไหนก็ได้ แต่กลับควงแฟนหน้าตาธรรมด๊าธรรมดาหรือออกแนวขี้เหร่ด้วยซ้ำไป
ผู้หญิงสวยที่ควงหนุ่มหน้าตาธรรมดานั้นยังพอเข้าใจได้ เพราะอาจชอบคารม ความเป็นผู้ใหญ่ หรือฐานะที่มั่นคง
แต่ผู้ชายหล่อๆ ที่ควงผู้หญิงหน้าตาธรรมดาล่ะ?
ผมเคยเจอคู่หนึ่งเป็นอย่างนี้ครับ ผู้ชายหล่อระดับเดือนมหาลัย ส่วนผู้หญิงนั้นหน้าตาธรรมดา ผิวเข้ม แถมผอมกะหร่อง
แต่พอผมได้คุยกับน้องผู้หญิงคนนี้ จึงรู้ว่าน้องเขานิสัยน่ารัก คุยสนุก แถมยังฉลาดอีกต่างหาก
—–
สมมติฐานของผมก็คือ คนที่เกิดมาไม่มีต้นทุนทางผิวพรรณและหน้าตา ก็ย่อมรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กว่าต้องพยายามสร้างส่วนอื่นๆ ขึ้นมาเสริม เช่นตั้งใจเรียน เอาอกเอาใจ ขยันขันแข็ง พูดจาไพเราะ
เพราะถ้าหน้าตาไม่น่าเอ็นดูแล้วยังนิสัยแย่ด้วย คงจะอยู่ในโลกนี้ได้ลำบากน่าดู
ในขณะที่คนที่หน้าตาดีระดับดารา ย่อมถูกเอาอกเอาใจและให้อภัยมาตั้งแต่เด็ก (เหมือนแมวในโฆษณาและจักรพรรดินีโบอาแฮนค็อกผู้เลอโฉม) ดังนั้นจึง “ไม่มีความจำเป็น” ที่จะต้องนิสัยดีก็อยู่ได้อย่างสบายๆ
ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ยินได้ฟังเรื่องนางเอกขี้วีนหรือพระเอกนิสัยถ่อยอยู่เรื่อยๆ
ขณะที่บางคนไว้หนวดไว้เคราเหมือนโจร แต่พอได้คุยด้วยกลับเป็นคนธรรมะธรรมโม น่ารักน่าคบหา
—–
ถ้าคุณอายุยังน้อยและหน้าตาดี ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่จะใช้ชีวิตแบบสวยไปวันๆ หล่อไปวันๆ
แต่อย่าชะล่าใจจนลืมไปว่า ต่อให้หน้าตาเราดีอย่างไร ใช้ครีมฝรั่งราคาแพงแค่ไหน สุดท้ายสังขารก็ย่อมร่วงโรย
ถ้าพึ่งพาแต่หน้าตาอย่างเดียว โดยไม่พัฒนามิติอื่นๆ ของชีวิต วันที่เราหมดสวย-หมดหล่อ อาจจะเป็นวันที่เราไม่เหลืออะไรเลย
ถึงตอนนั้นจะมาเริ่มเปลี่ยนนิสัยให้ดีขึ้นก็อาจไม่ทันการ เพราะไม้มันแก่เสียแล้ว (และคนอาจจะเลิกคบเราไปเกือบหมดแล้ว)
ดังนั้น ถ้าจะปร้บปรุงตัวเอง ก็ควรรีบขวนขวายเสียแต่วันนี้
จะได้ไม่มีใครมาตำหนิเราได้ว่า “นอกจากหน้าตาแล้วมีอะไรดีมั่ง?”
—–
ขอบคุณข้อมูลจาก IMDB, Wonder12, Business Insider
ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings)
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”