เพื่อนร่วมทาง

20150322_FellowTravelers

“พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ไปปรับปรุงแก้ไขคนอื่น แต่ให้แก้ที่ตัวเอง เมื่อบอกแล้วเขายังไม่ศรัทธาก็ต้องปล่อยวาง เพราะชีวิตเป็นของเขา คุณเป็นผู้ร่วมทางชีวิตกับเขาเพียงชั่วคราวเท่านั้น”
– ดร.สนอง วรอุไร

—–
หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า หากเจอปัญหาหนักหน่วงในชีวิต ขอแค่เงยหน้ามองดาว ก็อาจจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น

เพราะเมื่อเรามองดูความยิ่งใหญ่ของดวงดาวและจักรวาล เราก็จะสำเหนียกว่าตัวเราเองเล็กนิดเดียว

ปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรานั้น จริงๆ แล้วไม่มีความหมายอะไรเลย

อ่านประโยคของดร.สนอง จึงเพิ่งนึกได้ว่ามันอาจมีวิธีการมองอีกแบบหนึ่ง

หากเราเชื่อว่าการเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่ เราก็จะเห็นว่า 70 ปีบนโลกมนุษย์ของเรานั้นเป็นช่วงเวลาที่สั้นเหมือนกับกะพริบตา เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่เราต้องวนเวียนอยู่ในสังสารวัฎ

แม้กระทั่งคนที่เรารักมากที่สุดอย่าง พ่อ แม่ พี่ น้อง ภรรยา และลูก ก็เป็นเพียงเพื่อนร่วมทางเท่านั้น

เหมือนเราขึ้นรถไฟ แล้วบังเอิญได้เจอคนแปลกหน้า ได้นั่งคุยกันแค่สถานีเดียว ก่อนที่เขา-หรือไม่ก็เราจะต้องลงจากรถขบวนนี้ไป

ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ เราคงทำได้เพียงใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันให้มีคุณภาพ แชร์ประสบการณ์ และอาจบอกเขาได้ว่าเราคิดจะไปไหน และจะไปยังไง

แต่เราไม่มีสิทธิ์ไปกะเกณฑ์ให้เพื่อนร่วมทางคนนั้นมาใช้เส้นทางเดียวกับเรา

เพราะแต่ละคนต่างก็มีเส้นทางของตัวเอง

ก็ได้แต่หวังว่า เราจะได้ไปเจอกันที่จุดหมาย ในอนาคตที่ไม่ไกลเกินไปนัก

—–

Credits:

ดร.สนอง วรอุไร – ยิ่งกว่าสุขเมื่อจิตเป็นอิสระ