ในปี 1974 Paul Slovic ที่เป็นนักจิตวิทยาระดับโลกได้ทำการทดลองเพื่อจะดูว่าข้อมูลที่มากขึ้นมีผลต่อการตัดสินใจเพียงใด
สโลวิคนัดหมายเซียนพนันม้า 8 คน เพื่อให้แต่ละคนแทงว่าม้าตัวไหนจะเข้าวิน
โดยแต่ละรอบจะมีม้าเข้าแข่ง 10 ตัว และจะมีการแทงทั้งหมด 4 รอบ โดยที่ไม่มีม้าซ้ำกันเลย
ถ้าใช้วิธีเดาสุ่ม เซียนพนันมีโอกาสถูกเพียง 10% (ม้า 1 ตัวใน 10 ตัวที่เข้าวิน)
สโลวิคเพิ่มความน่าจะเป็นในการแทงถูก ด้วยการให้ข้อมูลเพิ่มเติม
โดยรอบแรก เซียนพนันแต่ละคนจะขอข้อมูลใดๆ ก็ได้เกี่ยวกับม้าที่แข่งในรอบนั้นจำนวน 5 ชิ้น (เช่นเวลาที่เร็วที่สุดที่ม้าแต่ละตัวเคยทำได้ ประสบการณ์ของจ๊อกกี้แต่ละคน ฯลฯ)
รอบที่สอง เซียนพนันสามารถขอข้อมูลได้ 10 ชิ้น
รอบที่สาม ขอข้อมูลได้ 20 ชิ้น
และรอบสุดท้าย ขอข้อมูลได้ 40 ชิ้น
ก่อนการแข่งแต่ละรอบ สโลวิคถามเซียนพนันด้วยว่ามีความมั่นใจแค่ไหนว่าจะทายถูก
รอบแรก เซียนพนันมีความมั่นใจ 19%
รอบที่สองและรอบที่สาม เซียนพนันก็มีความมั่นใจมากขึ้นอีก เพราะมีข้อมูลมากขึ้น
ส่วนรอบสุดท้าย ที่ได้ข้อมูลคนละ 40 ชิ้น เซียนพนันมีความมั่นใจถึง 34% ว่าจะทายถูก
แล้วผลลัพธ์เป็นเช่นไร?
รอบแรก เซียนพนันทายถูก 17%
รอบที่สอง เซียนพนันทายถูก 17%
รอบที่สาม เซียนพนันทายถูก 17%
รอบสุดท้าย เซียนพนันก็ยังทายถูกแค่ 17%*
การได้ข้อมูลมากขึ้น ไม่ได้เพิ่มโอกาสในการทายถูกให้กับเซียนพนันเลย
สิ่งเดียวที่แตกต่าง คือความมั่นใจว่าจะทายถูก คือเพิ่มขึ้นจาก 19% เป็น 34%
Slovic ได้ข้อสรุปว่า ข้อมูลนั้นมีประโยชน์สำหรับัการตัดสินใจก็จริง แต่เมื่อเลยจุดๆ หนึ่งไปแล้ว มันมีแต่จะทำให้เราเชื่อในสิ่งที่เราเชื่ออยู่แล้วหนักแน่นยิ่งขึ้น (confirmation bias) ข้อมูลอะไรที่ขัดไปจากความเชื่อที่เรามี เราก็จะโยนทิ้งหรือไม่สนใจ ดังนั้นมันจึงไม่ได้เพิ่มโอกาสที่เราจะตัดสินใจถูกได้เลย
สิ่งเดียวที่มันทำคือทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เรากล้าเสี่ยงมากขึ้น จนสุดท้ายก็สูญเสียมากขึ้นนั่นเอง
การทดลองนี้สอนให้รู้ว่าข้อมูลต่างๆ ก็มีข้อจำกัดของมัน เพื่อที่เราจะได้ไม่มั่นใจกับการตัดสินใจของเราจนเกินเหตุ
ในทางกลับกัน ถ้าจะลงมือทำอะไรซักอย่าง ก็ไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลครบทุกอย่างก็ได้ เพราะถึงมีมากเกินไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี มีแต่จะทำให้เราเสียเวลาและเสียโอกาสมากขึ้นเท่านั้นเอง
—–
ขอบคุณเนื้อหาจาก Tribe of Mentors Short Life Advice from the Best in the World by Timothy Ferriss
* ผมไม่แน่ใจว่าตัวเลข 17% มาอย่างไรเหมือนกัน เพราะถ้านักพนันมี 8 คน ค่าการคำนวณควรจะเป็น 1/8 = 12.5% หรือ 2/8 = 25%