มันยังเป็นสิ่งที่เรายังต้องการจริงๆ อยู่รึเปล่า?
เพราะเป้าหมายในปัจจุบันมาจากตัวเราในอดีต
และตัวเราในวันนี้กับตัวเราในอดีตย่อมแตกต่างกันไม่มากก็น้อย
สมัยเรียนหนังสือ ผมเคยมีเป้าหมายอยากได้รถบีเอ็ม แต่มาเดี๋ยวนี้ก็ไม่อยากได้รถบีเอ็มแล้ว
ผมเคยมีความฝันอยากไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ด แต่ก็ทิ้งมันไว้จนเกือบจะนานเกินไป กว่าจะได้ไปเหยียบโรงละครแห่งความฝัน เซอร์อเล็กซ์เฟอร์กูสันและนักเตะที่ผมเคยคลั่งไคล้ก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว
อาจจะฟังดูไม่โรแมนติคนัก แต่ผมเชื่อว่าทุกความฝันมีวันหมดอายุ
เรากำลังไล่ตามความฝันที่หมดอายุอยู่รึเปล่า?
ถ้าใช่ ก็อาจเป็นการดีกว่าที่จะยอมรับความจริง ดีกว่าเสียเวลาอีกหลายเดือน หลายปี หรือแม้กระทั่งทั้งชีวิต พอไขว่คว้ามันมาได้ถึงเพิ่งรู้ตัวว่ามันไม่ใช่
เหมือนจะเป็นเรื่องเศร้า แต่จริงๆ แล้วมันคือข่าวดี
เมื่อเราปลดปล่อยตัวเองจากความฝันที่ไม่ได้ตอบโจทย์อีกต่อไป เราก็จะมีแรงและเวลาในการทำสิ่งที่มีคุณค่าและมีความหมายกับเราอย่างแท้จริงครับ