สองสัปดาห์ที่แล้วผมไปงานแต่งงานของเพื่อนสนิทที่ปราณบุรีมาครับ
เพื่อนจองบ้านพักเอาไว้ให้ ในโครงการน่าจะมีซัก 10 หลังได้ บ้านหลังที่ผมไปนอนมี 4 ห้องนอน มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ แถมยังมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบ้าน เป็นคฤหาสน์ย่อมๆ เลยก็ว่าได้
แต่มีหลังหนึ่งที่แตกต่างไปจากหลังอื่น เพราะเหมือนเป็นหลังที่มีคนอยู่ประจำ แถมหน้าบ้านยังขึ้นป้ายขายด้วย
ป้ายขายบ้านคือสิ่งแรกที่เห็น ส่วนสิ่งที่สองที่ผมเห็นคือราวตากผ้าที่ตั้งอยู่ในลานจอดรถ
การมีราวตากผ้าที่เต็มไปด้วยผ้าที่ซักแล้วทำให้ความเป็นคฤหาสน์ดูดร็อปลงไปทันที
เวลาเราจะซื้อคอนโดหรือซื้อบ้านซักหลัง สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือการเดินชมห้องตัวอย่างหรือบ้านตัวอย่าง ซึ่งก็แต่งซะสวยมากจนอดคิดไม่ได้ว่าขอซื้อหลังนี้เลยได้มั้ย
แต่บ้านตัวอย่างไม่มีราวตากผ้า
ไม่มีถังแก๊ส
ไม่มีถังขยะสีดำที่รอทิ้ง
และไม่มีอะไรหลายๆ อย่างที่เราจะได้เจอเวลาย้ายเข้ามาอยู่จริง
เวลาเราคบหากับแฟน ต่างฝ่ายต่างก็พยายามหันส่วนที่ดีที่สุดให้อีกฝ่ายเห็น เลือกชุดมาอย่างดี ใส่น้ำหอมมาอย่างฟุ้ง พูดจาอย่างไพเราะ
ต่อเมื่อเราแต่งงานกันแล้วเท่านั้น เราถึงจะเห็น “ราวตากผ้า” ของชีวิตคู่ เช่นนิสัยไม่ดีที่ติดตัวมาแต่เด็ก ปัญหาเรื่องหนี้สิน รวมไปถึงการต้องมานั่งเปลี่ยนผ้าอ้อมที่เต็มไปด้วย !#@? ของลูกน้อย
เวลาสัมภาษณ์งานก็เช่นกัน ต่างฝ่ายต่างก็เอา “บ้านตัวอย่าง” ออกมาโชว์ ไม่ว่าจะเป็นเรซูเม่ของผู้สมัคร หรือวิสัยทัศน์ขององค์กร เราไม่มีทางรู้เลยว่าหัวหน้าคนที่สัมภาษณ์เราจะทำตัวยังไงเวลาที่เราทำงานไม่ถูกใจเขา และคนที่สัมภาษณ์เราก็มีโอกาสรู้น้อยมากว่าเรามีอะไรซ่อนอยู่ ต่อเมื่อได้เข้ามาทำงานจริงๆ กันซักพักแล้วเท่านั้น ถึงจะได้รู้ว่าหลายๆ อย่างมันไม่ได้เหมือนที่คิด
แล้วผมมีข้อแนะนำอะไรบ้าง? เอาจริงๆ ผมก็พยายามขบคิดหัวข้อนี้มาตั้งแต่ที่เห็นบ้านหลังนั้นแล้ว จนเวลาผ่านมาสองสัปดาห์ก็ยังไม่ได้มีคำตอบที่ดีนัก แต่เท่าที่คิดได้ก็คือ
ตอนซื้อบ้าน อย่าลืมคิดเผื่อด้วยว่า บ้านตัวอย่างเขาขาดอะไรอยู่บ้าง และถ้าเอาอุปกรณ์อย่างราวตากผ้า ถังแก๊ส หรือถุงขยะดำมาวาง เราจะวางไว้ตรงไหน
ตอนที่คบหากับแฟน ลองคิดเผื่อด้วยว่า ถึงวันที่เรามีลูกกัน เขาคือคนที่เต็มใจจะเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกที่เต็มไปด้วย !#@? รึเปล่า
และเวลาจะสมัครงานที่ไหน การโทร.มาคุยกับคนที่ทำงานอยู่ในองค์กรนี้อยู่ก่อนแล้วน่าจะเป็นไอเดียที่ดี อย่างน้อยเขาน่าจะให้ข้อมูลเราได้ว่าทีมที่เราจะไปอยู่ด้วยนั้นเหมาะสมกับเราแค่ไหน และมีปัญหาอะไรที่เขาจะไม่มีทางบอกเราในชั่วโมงสัมภาษณ์
โดยสรุปก็คือต้องคอยเตือนตัวเองไม่ให้ฝันหวานไปกับบ้านตัวอย่างจนเกินไป แล้วพยายามคิดให้ออกว่า “ราวตากผ้า” ที่ซ่อนอยู่มีอะไรบ้าง
จะได้แน่ใจว่าเราคิดอย่างรอบคอบแล้วก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายงาน แต่งงาน หรือซื้อบ้านครับ
อ่านบทความใหม่ทุกวันที่เพจ Anontawong’s Musings: facebook.com/anontawongblog
อ่านบทความทั้งหมด anontawong.com/archives
ดาวน์โหลดหนังสือ “เกิดใหม่” anontawong.com/subscribe/